หากพูดถึงเกมในยุคใหม่นั้นก็ต้องควบคู่ไปกับเนื้อเรื่องที่ดีและตัวละครชั้นเลิศใช่ไหมครับ โดยเฉพาะตัวละครยอดนิยมที่ผู้เล่นชื่นชอบนั้นก็มักจะเรียกเรทติ้งของเกมให้พุ่งสูงได้อย่างไม่ยากเย็นนัก แต่ถ้าเกิดนว่าตัวละครเหล่านั้นตายขึ้นมาก็จะสร้างความเสียอกเสียใจให้กับผู้เล่นเป็นอย่างมาก บางเกมนั้นต่อให้ตัวละครที่ตายไปนานแล้ว แต่ตัวละครตัวนั้นก็ยังถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ด้วยองค์ประกอบต่าง ๆ ที่วางเอาไว้มากมายในเนื้อเรื่องของเกม เรามาชมกันดีกว่าครับว่าจะมีตัวละครแบบไหนบ้าง ที่ผู้เล่นอย่างเรามักจะอินเมื่อพวกเขาต้องตายครับ
1. คนที่เสียสละตัวเองเพื่อปกป้องบางอย่าง
คนเสียสละเป็นกลุ่มคนที่หาได้ยากยิ่งในโลกแห่งความเป็นจริง เพราะฉะนั้นเวลาที่มีตัวละครในเกมที่มักจะเสียสละเพื่อคนอื่นโผล่มาให้เห็น ผู้เล่นอย่างเราก็มักจะถูกอกถูกใจไปตาม ๆ กัน ยิ่งเขาเป็นคนดีหรือเสียสละสิ่งที่สำคัญของตัวเองมากเท่าไหร่ ความนิยมของตัวละครแบบนี้ก็มักจะพุ่งสูงขึ้นเช่นกัน แต่น่าเสียดายที่คนดีมาก ๆ มักจะตายเร็ว คำกล่าวนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ความจริงเท่านั้นแต่ยังรวมถึงในเกมด้วย คนดีแบบนี้มักจะมีลางอะไรบางอย่างบอกผู้เล่นอย่างเราว่า “หมอนี่ตายแน่!” ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นการเสียสละชีวิตของตัวเองเพื่อปกป้องอะไรบางอย่าง เช่น ปกป้องลูกของตัวเอง ปกป้องโลกทั้งใบ ปกป้องศักดิ์ศรีและแนวคิด หรืออื่น ๆ ก็แล้วแต่เกมจะดีไซน์ไว้ ซึ่งตัวละครที่ตายไปทั้งแบบนั้นมักจะทำให้เราอินกว่าตัวประกอบทั่วไปครับ
2. ตัวละครที่ผู้เล่นผูกพัน
ความผูกพันอาจจะไม่ได้หมายถึงการที่ตัวละครตัวนั้นพูดคุยกับคุณที่เป็นผู้เล่น แต่มันคือการเดินทางที่ร่วมทางกันมาตลอดตั้งแต่ต้นจนจบ คุณอาจจะ Role Play เป็นตัวละครตัวนั้น แต่คุณก็รู้อยู่แก่ใจว่าคุณไม่ใช่เขา คุณยังคงเป็นบุคคลที่สามที่เห็นพัฒนาการของเขา เห็นสิ่งที่เขาได้รับมาและเสียไป เห็นอารมณ์ความอ่อนไหว ความพยายาม ความโกรธ ความเศร้า ของตัวละครตัวนี้มาตลอดทั้งเกม แล้วจู่ ๆ ตัวละครที่เราเล่นมาตลอดกลับต้องตายด้วยเหตุผลบางอย่าง มันเป็นเหมือนการพรากของสำคัญที่สุดของคุณไปจากเกมนั้น ๆ แม้ว่าเกมจะยังไม่จบ แต่เกมนี้จะไม่มีตัวละครตัวนี้อีกแล้ว มันเป็นเรื่องน่าเศร้าที่สะเทือนจิตใจของผู้เล่นอย่างเรามาก ๆ ครับ
3. คนที่คิดดีด้วยความบริสุทธิ์ใจ
นอกจากคนดีจะตายเร็วแล้วคนที่ใสซื่อบริสุทธิ์ก็มักจะอยู่ได้ไม่นานเช่นเดียวกัน เกมที่มีเนื้อเรื่องเข้มข้นย่อมมีการตายจากเกิดขึ้นในเกมอยู่บ่อยครั้ง และโลกอันแสนโหดร้ายก็มักจะไม่เหมาะกับคนที่ใสซื่อเท่าไหร่นัก แม้เราจะรู้อยู่แก่ใจว่าคนแบบนี้ในโลกแบบนี้ไม่มีทางอยู่รอดได้นานหรอก แต่คุณก็ทำใจได้ยากทุกครั้งเวลาที่ต้องเห็นตัวละครใสซื่อแบบนี้ต้องตาย เพราะบทในเนื้อเรื่องเกมจะแสดงให้คุณเห็นว่าตัวละครใสซื่อแบบนี้เปรียบเสมือนแสงสว่างอันดำมืดในโลกที่โหดร้าย พวกเขามักคิดบวก มองโลกในแง่ดี มีความหวัง และก้าวไปข้างหน้าเสมอ และ คนแบบนี้แหละที่มักจะถูกโลกอันโหดร้ายพรากชีวิตไป ไม่ว่าจะด้วยการเสียสละของตัวเขาเองหรือเหตุการณ์มันพาไปก็ตาม ผู้เล่นอย่างเราล้วนคิดเหมือนกันว่าไม่อยากให้เขาตายเลย
4. คนที่เป็นตัวร้ายเพราะโลกทำให้เขาเป็นแบบนั้น
เกมสมัยใหม่มักจะมีตัวละครที่มีหลายมิติให้ผู้เล่นได้เลือกมอง โดยเฉพาะตัวร้ายที่เปรียบเสมือนบอสของเกมที่เราเล่น ในยุคนี้ไม่ค่อยมีแล้ว ตัวละครที่เลวบริสุทธิ์อยากจะทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าตัวละครนั้นยังเป็นมนุษย์อยู่ก็มักจะมีเหตุผลที่ต้องร้าย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการสูญเสียคนที่เขารัก การทำอะไรบางอย่างเพื่อเปลี่ยนแปลงอนาคตของโลก หรือทำตามคติแนวคิดที่เขาเชื่อมั่นอย่างสุดหัวใจ แน่นอนว่าเมื่อเป็นตัวร้ายแล้ววิธีการมันก็ค่อนข้างที่จะรุนแรงและไม่น่าให้อภัย แต่ถ้าผู้เล่นอย่างเรามองลึกเข้าไปในอดีตของเขาก็จะเข้าใจได้ไม่ยากว่าทำไมเขาถึงกลายมาเป็นแบบนี้ ซึ่งส่วนมากจะเป็นเพราะสภาพสังคมและโลกทั้งใบเปลี่ยนแปลงเขาให้กลายเป็นตัวร้ายนั่นเอง ตัวร้ายประเภทนี้น่าสงสารจริง ๆ ครับ
5. คนที่สู้กับเรา แต่ไม่ได้อยากทำร้ายเรา
มีตัวละครจำนวนไม่น้อยเลยที่ถูกบทบาทหน้าที่ภายในเนื้อเรื่องบีบบังคับให้เราและเขาต้องสู้กันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้เพราะเขาตั้งใจสู้ด้วยตัวเอง หรือถูกหัวหน้าสั่งให้ทำ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรตัวละครแบบนี้มักจะแสดงเจตนาบางอย่างให้เราเห็นได้ชัดเจนว่า “ฉันไม่ได้อยากสู้กับนายนะ” ไม่ว่าจะด้วยคำพูดหรือการกระทำ ทำให้เราเข้าใจว่า อ๋อ…ตัวละครตัวนี้ไม่ใช่คนไม่ดีหรอก แต่เขาจำเป็นต้องทำแบบนี้ด้วยเหตุผลบางอย่าง และตัวละครแบบนี้ก็มักจะให้การสนับสนุนเราอยู่เรื่อย ๆ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม เวลาที่ตัวละครแบบนี้ต้องตายไปนั้น ค่อนข้างที่จะกระทบจิตใจผู้เล่นอย่างเราพอสมควรเลยแหละครับ
6. ตัวละครที่ทำหน้าเป็นครูให้กับเรา
ไม่ว่าจะเป็นหนัง อนิเมะหรือเกม ก็มักจะมีพล็อตเรื่องเกี่ยวกับครูบาอาจารย์เสียสละชีวิตตัวเองเพื่อลูกศิษย์กันจนชินตา แต่หัวใจของผู้เล่นอย่างเรากลับไม่เคยจะชินสักครั้ง เกมที่ใช้เนื้อเรื่องทำนองนี้มักจะเป็นการสื่อสารอ้อม ๆ ว่า เป็นการส่งต่อเจตนารมณ์ไปสู่อนาคต ซึ่งก็คือจากอาจารย์สู่ลูกศิษย์นั่นแหละ แต่ก่อนที่อาจารย์จะตายตามเนื้อเรื่องนั้นเราจะได้เห็นเสมอว่า อาจารย์คนนี้เคยสอนตัวเอกมามากแค่ไหน เหนื่อยยากยังไงเขาก็ไม่เคยหยุดสอน หวังแค่ว่าตัวเอกของเราจะต้องมีวันพรุ่งนี้ที่สดใส เลี้ยงดูตัวเอกเหมือนลูกเหมือนหลาน และเมื่ออาจารย์ได้ตายจากไป ลูกศิษย์ก็จะเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก แต่ก็จะแลกมากับพลังใหม่เพราะสำนึกได้ว่าสิ่งที่อาจารย์สอนนั้นสำคัญแค่ไหน ถ้าไม่มีอาจารย์ ก็ไม่มีตัวเอกให้เราเล่นต่อ เราจึงรู้สึกอินกับตัวละครอาจารย์ที่ตายไปนั้นมาก ๆ ครับ
7. คนที่เรารู้อดีตว่าเขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง
กรณีแบบนี้เกิดขึ้นได้เสมอแม้จะเป็นตัวประกอบก็ตาม มีหลายเกมที่มักจะบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ เช่น ไปเมืองใหม่ก็จะรู้อดีตของเมืองนั้น รู้จักตัวละครใหม่ก็จะรู้อดีตของตัวนั้น เป็นต้น การที่เรารู้ถึงอดีตนั้นส่งผลให้เรามีความเข้าใจตัวละครมากขึ้นไปอีกขั้น โดยเฉพาะอารมณ์ต่าง ๆ ที่เรามีให้เขา ไม่ว่าจะรู้สึกสงสารหรือโกรธแทนเขาจากอดีตที่เขาพบเจอมา มันทำให้เราผูกพันกับตัวละครนั้นมากขึ้น และถ้าเกิดว่าตัวละครตัวนั้นตายขึ้นมา แน่นอนว่าเราที่เป็นผู้รู้อดีตของเขาก็ต้องซึมไปเป็นธรรมดา ยิ่งอดีตของตัวละครคนนั้นย่ำแย่แค่ไหนหรือทั้งชีวิตต้องพยายามมามากแค่ไหน แล้วสุดท้ายยังมาตายให้เราเห็นอีกก็ยิ่งซึมเข้าไปใหญ่ บอกเลยว่าต่อให้เป็นตัวประกอบก็เล่นเอาจุกอกอยู่เหมือนกันครับ
และนี่ก็คือ “7 ประเภทของตัวละครในเกมที่ผู้เล่นจะอินเมื่อพวกเขาต้องตาย” ตรงกับสิ่งที่เพื่อน ๆ คิดไหมครับ แล้วเพื่อน ๆ ล่ะครับมีตัวละครแบบอื่นอีกบ้างไหมครับ ที่เวลาเขาตายแล้วเรารู้สึกอินกับมันมาก ๆ คอมเมนต์บอกให้เราได้อ่านกันได้นะครับ ส่วนตัวผมนั้นน้ำตาไหลทุกครั้งเลยที่เห็นตัวละครตัวไหนตายจากไป สงสัยจะอินกับมันมากเกินไปแน่ ๆ T-T