10 เรื่องที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับเครื่องเล่น GameBoy
เกร็ดความรู้สำหรับแฟนคลับ Nintendo ที่ชื่นชอบเครื่องเล่นเกมจิ๋วยุค 90
ผู้เขียน : GantaroZX
ปัจจุบันนี้เครื่องเล่นเกมพกพาแทบจะถูกลดบทบาทไปโดยสิ้นเชิงด้วยการมาถึงของสมาร์ทโฟน แต่หนึ่งในค่ายเกมที่ยังคงเดินหน้าพัฒนาสินค้าไลน์นี้อย่างต่อเนื่องก็หนีไม่พ้น Nintendo ผู้คร่ำหวอดในวงการเกมมาเกือบครึ่งทศวรรษ ซึ่งก่อนที่จะมาถึงยุค Nintendo Switch ที่ให้เราเล่นเกมภาพความละเอียดสูงแบบที่ไหนก็ได้ หากย้อนไปเพียง 20 ปีก็จะพบว่าเกมพกพาสมัยนั้นยังเป็นเทคโนโลยี 8-bit เท่านั้น
สำหรับเกมพกพาในยุค 90 ที่ฮอตฮิตติดตลาดในบ้านเราก็เป็นอะไรไปไม่ได้นอกจาก GameBoy เครื่องเล่นเกมทรงผืนผ้าที่ให้เราสลับสับเปลี่ยนตลับเกมได้ตลอดเวลา โดยในวันนี้พวกเราก็จะย้อนความหลังกับ 10 เรื่องที่คุณไม่รู้เกี่ยวกับเครื่องเล่น GameBoy กันด้วย แต่จะมีเรื่องอะไรบ้างนั้นว่าแล้วก็อย่ารอช้ารีบมาเริ่มต้นกันที่ข้อแรกเลยดีกว่าครับ
1. ยืนหนึ่งเรื่องความทนทาน ทนทายาด
แพทย์ทหารนายหนึ่งชื่อว่า Stephan Scoggins ได้นำเครื่องเล่น GameBoy ของเขาติดตัวไปในสงครามที่ตะวันออกกลางด้วยครั้งหนึ่งและในเวลาต่อมาแคมป์ของเขาก็ถูกถล่มด้วยระเบิดจำนวณหลายลูก ถึงแม้ว่าเขาจะเอาตัวรอดมาได้ แต่เครื่องเล่นเกมคู่ใจกลับมีสภาพเละตุ้มเป๊ะชนิดที่ว่าแผงวงจรโผล่ออกมา ทั้งนี้ทั้งนั้นวิศวกรของ Nintendo ได้ลองนำมาทดลองเปิดดูกระทั่งพบว่ามันยังใช้งานได้ และปัจจุบันเจ้าเครื่องเล่นเกมเครื่องนี้ก็ได้ถูกจัดแสดงอยู่ที่ร้านค้า Nintendo World Store ในนิวยอร์กเพื่อเป็นเครื่องหมายแสดงตนถึงความทนทายาด
2. เครื่องเล่นเกมเครื่องแรกที่ได้ไปท่องอวกาศ
ในปี 1993 ได้มีนักบินอวกาศชาวรัสเซียที่นำเครื่องเล่นเกมบอยขึ้นไปทำภารกิจกับเขาบนสถานีอวกาศ Mir เป็นระยะเวลากว่าครึ่งปีพร้อมกับเกม Tetris โดยภายหลังได้มีการนำมาประมูลด้วยมูลค่าสูงถึง 37,942 บาท (ในปี 2011) ในโครงการ The Space History Sale ครับ
3. จริงๆ แล้วเป็นเครื่องเล่นพกพาลำดับสองของ Nintendo นะ
หากใครคิดว่า GameBoy เป็นเครื่องเล่นเกมรุ่นแรกสุดของ Nintendo ในฐานะเครื่องเกมพกพาก็ต้องบอกว่าคิดผิดเพราะว่าก่อนหน้านั้นทางค่ายเคยผลิตสินค้าเรียกว่า Game & Watch มาหลากหลายรุ่น ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะมีเกมติดมาแค่เพียงเกมเดียว (พร้อมฟังก์ชั่นนาฬิกา) ดังนั้นใครที่อยากได้เกมเยอะๆ ก็ต้องตามซื้อให้ครบ โดยล่าสุด Nintendo ก็เตรียมวางจำหน่าย Game & Watch รุ่นใหม่ฉลองครบรอบ 35 ปีเกม Super Mario Bros. พร้อมรองรับภาพสีด้วยนะ
4. โลโก้ Nintendo ตอนเปิดเครื่อง
หากยังจำกันได้เวลาเราเปิดเครื่องเล่น GameBoy จะมีโลโก้ของ Nintendo ร่วงลงมากลางจอก่อนจะโหลดเข้าสู่ตัวเกม ซึ่งความจริงแล้วโลโก้นี้จะถูกอ่านข้อมูลจากตัวตลับเกมเพราะว่าภายในเครื่องไม่มีการเก็บข้อมูลใดๆ ไว้ ดังนั้นถ้าหากใครเปิดเครื่องโดยไม่ใส่เกมเอาไว้ก็จะมีแค่กล่องสีดำโผล่มาแทน นอกจากนี้มันยังทำหน้าที่เป็นตัวป้องกันการใช้ตลับก๊อปปี้เช่นกัน
5. เป็นอุปกรณ์พกพาชิ้นแรกๆ ที่สามารถใช้ถ่ายเซลฟี่ได้
ใครจะรู้ว่า Nintendo เคยผลิตอุปกรณ์เสริมที่เรียกว่า GameBoy Camera ออกมาให้ผู้เล่นได้เลือกใช้งานกันด้วยนะ เจ้ากล้องนี้จะมีรูปทรงเป็นวงกลมติดมากับตัวตลับแถมยังสามารถหมุนได้ 180 องศา นั่นหมายความว่าเราสามารถใช้ถ่ายรูปเซลฟี่ได้ด้วย (ตั้งแต่กระแสเซลฟี่ยังไม่ฮิต) สำหรับสเปคของกล้องนี้ก็จะรองรับความละเอียดแค่ 128 x 112 พิกเซลเท่านั้น แถมยังไม่สามารถใช้งานได้ดีเท่าไหร่นัก แต่อย่างน้อยก็เป็นไอเดียที่น่าสนใจ และยังสามารถใช้ควบคู่กับ GameBoy Printer เพื่อพิมพ์ภาพขาวดำออกมาเล่นๆ ได้
6. สามารถรองรับผู้เล่นแบบมัลติเพลเยอร์ถึง 16 คน
โดยทั่วไปแล้ว พวกเรามักจะใช้สายเชื่อมต่อ GameBoy เพื่อเล่นเกมโปเกม่อนกันแบบสองคนเท่านั้น ทว่าในปี 1991 มีการทำสถิติโลกระดับกินเนสส์บุ๊กในหัวข้อ ‘การรองรับผู้เล่นจำนวนสูงสุดบนเครื่องเล่นเกมบอย’ สำหรับเกม Faceball 2000 โดยสามารถใช้งานได้ถึง 16 คนพร้อมกัน ซึ่งปัจจุบันเกมแนว FPS ก็สามารถรองรับกันได้ทะลุหลักร้อยคนเข้าไปแล้ว แต่ในสมัยนั้นเรียกได้ว่าฮือฮาสุดๆ!
7. เป็นเครื่องเล่นพกพาที่เกมโปเกม่อนไม่ได้ติดอันดับ Best Seller อันดับหนึ่ง
เกมโปเกม่อนกับเครื่องเล่นเกมพกพาย่อมเป็นของคู่กันมานับ 20 ปี แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า ถึงแม้ GameBoy จะเป็นต้นกำเนิดของซีรี่ส์เกมนี้ (และปังปุริเย่กันมาตั้งแต่รุ่นนั้น) เกมที่ขายดีอันดับหนึ่งบนแพลตฟอร์มดังกล่าวกลับไม่ใช่โปเกม่อน แต่เป็น Tetris ที่ขายได้ทะลุ 35 ล้านชุด โดยเครื่องเล่นพกพาอีกเครื่องที่ไม่มีโปเกม่อนติดอันดับก็คือ Nintendo DS ที่ประสบปัญหาการเล่นเถื่อนอย่างหนักนั่นเอง
8. ไม่ได้ใช้ชื่อ GameBoy ในการทำตลาดเกาหลี
เป็นที่ทราบกันดีว่าญี่ปุ่นและเกาหลีมีความสัมพันธ์ที่ไม่ราบรื่นนักในเวลาหลายร้อยปีที่ผ่านมา ซึ่ง Nintendo ได้ตัดสินใจขายลิขสิทธิ์เครื่องเล่น GameBoy ให้กับบริษัท Hyundai และทำการตลาดด้วยชื่อ Mini ComBoy เนื่องจากทางค่ายคิดว่าเกมเมอร์ชาวเกาหลีอาจจะต่อต้านการใช้สินค้าจากญี่ปุ่น
9. ที่อึดไม่ได้มีแค่เครื่อง แต่แบตก็อึดไม่แพ้กัน
แบตเตอรี่ AA สี่ก้อนสามารถใช้งานเครื่องเล่น GameBoy ได้ถึง 30 ชั่วโมง เรียกได้ว่าสูงกว่าเครื่องเล่นเกมพกพาในรุ่นหลังอย่าง Nintendo Switch ที่มักจะใช้งานได้ราวๆ 5 – 9 ชั่วโมงเท่านั้นหลายเท่าตัว และคุณสมบัตินี้เองก็ทำให้ GameGear ของ SEGA ที่สูบแบตเตอรี่เป็นอันต้องปิ๋วไปในตลาดเกมพกพา
10. เพื่อนคู่คิด มิตรสหายของนักตกปลา
ปิดท้ายด้วยอุปกรณ์เสริมที่ไม่น่าจะมีใครคาดคิดอย่างเครื่องตรวจสภาพแม่น้ำ โดย BANDAI ได้วางจำหน่ายอุปกรณ์เสริมที่เรียกว่า GameBoy Pocket Sonar ที่ผู้ใช้งานจะสามารถนำไปเสียบเข้ากับช่องใส่ตลับ จากนั้นให้โยนตัวปล่อยสัญญาณโซนาร์ลงไปในน้ำเพื่อตรวจว่ามีปลาอยู่ในละแวกนั้นหรือเปล่าผ่านหน้าจอเกมบอย (ชมวิดีโอตัวอย่างการใช้งานจาก Gaming Historian) เห็นแบบนี้ต้องบอกว่าเป็นทุกอย่างให้เธอแล้วจริงๆ!
ติดตามข่าวสารอื่น ๆ เกี่ยวกับเกมได้ที่ gamerculture.co