เกมไลฟ์สไตล์

10 เกมที่ถ่ายทอดเรื่องราวความรักของกลุ่ม LGBTQ ได้อย่างลงตัว

เพราะความรักไม่เกี่ยวกับเพศ

โลกในปัจจุบันนี้ จะเห็นได้ว่าค่อนข้างเปิดเสรีในด้านรสนิยมส่วนบุคคลกันแล้ว รวมถึงเปิดกว้างในเรื่องทางเลือกของเพศกันอย่างกว้างขวางด้วย จนเกือบจะเป็นที่ยอมรับอย่างสากล 100% แล้วในปัจจุบัน สื่อบันเทิงหลายๆอย่างทั้งภาพยนตร์หรือละครซีรีส์ ต่างก็ถ่ายทอดเรื่องราวและมุมมองของกลุ่ม LGBTQ (Lesbian, Gay, Bisexual, Transgender และ Queer) หรือกลุ่มรักร่วมเพศกันอย่างเปิดกว้างมากขึ้น แน่นอนว่าในเกมก็เช่นกัน เอาล่ะวันนี้ เพื่อเป็นการขยายมุมมองความรักของกลุ่ม LGBTQ ให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น เรามาดูกันดีกว่าว่า 10 เกมที่มีการถ่ายทอดเรื่องราวความรักของกลุ่ม LGBTQ ได้อย่างลงตัว จะมีเกมไหนบ้าง ไปติดตามกันครับ


1. Life is Strange (ภาคหลักและภาคเสริม Before the Storm)


 
เกมสุดอินดี้จากค่าย Square Enix ที่แปลกแยกไปจากเกมอื่นๆ ของค่ายอย่างสิ้นเชิง ด้วยเนื้อหาการเล่าเรื่องแนวชีวิตประจำวันของวัยรุ่น ที่มีตัวเอกเป็นนักเรียนธรรมดาๆ คนหนึ่ง ผู้ค้นพบว่าตัวเองมีความสามารถในการควบคุมเวลาได้ ภายในเกม จะมีระบบการเล่นที่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจการกระทำต่างๆ ของตัวผู้เล่นเอง ซึ่ง Max ตัวเอกของเรื่อง จะต้องเผชิญกับเหตุการณ์ต่างๆมากมายที่เกี่ยวข้องกับเพื่อนสนิทอย่าง Chloe โดยถ้าหากผู้เล่นได้ดำเนินเรื่องราวในเกมไปเรื่อยๆ จนพบกับฉากจบของเกม จะรู้ได้ว่าความสัมพันธ์ของสองคนนี้ ไม่ได้มีสถานะแค่เพื่อนแน่นอน ซึ่งตัวเกมได้ถ่ายทอดเรื่องราวความสัมพันธ์ของสองสาวผู้นี้ได้อย่างลงตัวมากๆ และอาจจะทำให้ใครหลายๆคนที่มีมุมมองภาพลบต่อกลุ่ม LGBTQ อาจเปลี่ยนความคิดไปเลยก็ได้


2. Dragon Age: Inquisition


 
อีกหนึ่งเกมสุดแฟนตาซีจากค่าย BioWare ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าจะมีเรื่องราวความรักของกลุ่ม LGBTQ แฝงอยู่ในเกมด้วย ซึ่งสำหรับเกมหลายๆเกมจากค่ายนี้ มักจะมีการเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์รักร่วมเพศกันอยู่บ้างแล้ว แต่ที่ค่อนข้างเด่นชัด ก็คือเกม Dragon Age: Inquisition โดยภายในเกม จะมีตัวละครเพศทางเลือก LGBTQ อยู่ค่อนข้างมาก ทั้ง Sera, Dorian, Krem และ The Iron Bull ซึ่งเรื่องราวบางส่วนของเกม จะแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ของเหล่าตัวละครที่พัฒนามาขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่เกี่ยงว่าจะต้องเป็นเพศหญิงชาย ถือว่าทางผู้พัฒนาค่อนข้างเปิดกว้างกับเรื่องราวความรักของกลุ่ม LGBTQ มากเลยทีเดียว และน่าชื่นชมตรงที่กล้าแสดงออกผ่านการเล่าเรื่องในเกมโดยตรงอย่างไม่อ้อมค้อม

3. Mass Effect : Andromeda


 
อีกหนึ่งเกมดังแนวไซไฟอวกาศจาก Bioware อย่าง Mass Effect : Andromeda ซึ่งก็มีสไตล์การเล่าเรื่องราวคล้ายๆกับเกม Dragon Age: Inquisition ที่ค่อนข้างเปิดกว้างในเรื่องความรักของกลุ่ม LGBTQ โดยภายในเกม Mass Effect : Andromeda จะมีตัวละครอยู่หลายตัวด้วยกันที่เป็น LGBTQ เช่นสมาชิกกลุ่มที่เป็นไบเซ็กชวล, คุณหมอที่เป็นเลสเบี้ยน หรือวิศวกรอวกาศที่เป็นเกย์ ซึ่งแสดงให้เห็นได้ชัดเจนว่า ไม่ว่าตัวละครจะเป็นเพศอะไร ก็ไม่ได้ทำให้เรื่องราวของเกมมีความผิดเพี้ยนไปเลยแม้แต่น้อย แต่กลับเพิ่มความน่าค้นหาและแปลกใหม่ในทางที่ดีไปอีกด้วยซ้ำ ถือเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมในการนำเสนอเรื่องราวที่เปิดกว้างต่อกลุ่ม LGBTQ มากๆ 


4. The Last of Us (Left Behind), The Last of Us Part II


 
นอกจากจะนำเสนอเรื่องราวของเชื้อโรคสุดอันตรายและการเอาชีวิตรอดผสมผสานดราม่าได้อย่างยอดเยี่ยมแล้ว ตัวเกมก็ยังถ่ายทอดเรื่องราวอันแสนอบอุ่นของ Ellie ที่มีเพื่อนสาวที่เป็นมากกว่าเพื่อนอย่าง Reily อีกด้วย ซึ่งเนื้อเรื่องตรงนี้กลับทำให้ตัวละคร Ellie มีมิติขึ้นกว่าเดิมมากๆ อีกทั้งยังซึ้งกินใจแถมยังคงสวยงามอยู่ใจของผู้เล่นตลอดกาล และนี่ก็เป็นความตั้งใจของทีมเขียนบทเองที่อยากจะตีความหมายของเพศทางเลือกให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น เชื่อว่าหลายๆคนที่ได้เล่น DLC ตัวนี้ จะต้องเข้าใจความหมายของคู่รัก LGBTQ และชื่นชอบตัวละคร Ellie มากขึ้นแน่นอน และใน The Last of Us Part II ภาคใหม่ล่าสุดที่ปล่อย Trailer ออกมาในงาน E3 2018 นั้นเราก็ได้เห็น Ellie ในฉบับสาววัย 19 ที่เปิดฉากด้วยการแสดงความรักจูบกับตัวละครหญิง(ชื่อ Dina) ซึ่งเราน่าจะได้เรียนรู้คสวามสัมพันธ์ของทั้งสองมากยิ่งขึ้นในตอนตัวเกมวางจำหน่าย

5. Gone Home


 
อีกหนึ่งเกมอินดี้ฟอร์มเล็กที่เล่าเรื่องราวของชาว LGBTQ ได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ ตัวเกมจะเล่าถึงเรื่องราวของหญิงสาวคนหนึ่งที่กลับถึงบ้านหลังจากใช้เวลาเดินทางในต่างประเทศ และกลับพบว่าคนในบ้านทั้งหมดได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยโดยไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งผู้เล่นจะต้องคอยตามหาหลักฐานเพื่อสืบสาวถึงสมาชิกในบ้านแต่ละคนที่หายตัวไป เรื่องราวภายในเกมจะดำเนินไปให้ความจริงของเรื่องราวต่างๆมากขึ้นเรื่อยๆ และอีกประเด็นที่สำคัญ ก็คือมีการใส่เรื่องราวแฟนสาวเพศเดียวกันของเธอเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจุดๆนี้นี่แหละ ที่ทำให้เรื่องราวเข้มข้นและลงตัวอย่างน่าจดจำสุดๆ

6. The Sims 4

อันที่จริงซีรี่ส์ The Sims นับเป็นหนึ่งในน้อยเกมที่จัดว่าเป็นมิตรต่อกลุ่มชาว LGBTQ มาตั้งแต่ภาคแรกแล้ว เพราะซิมส์สามารถที่จะจีบ/แต่งงานใช้ชีวิตคู่กับเพศเดียวกันได้อย่างไม่เคยมีกฏข้อห้ามใดๆ อย่างยิ่งในเดอะซิมส์ 4 นั้น ที่ได้เพิ่มความหลากหลายในการแสดงออกทางเพศมากยิ่งขึ้นไปอีกขั้น เพราะตัวละครทั้งชายและหญิงสามารถที่จะมี Perfecrence เพศที่ต้องการได้ เช่น เป็นผู้ชายแต่แต่งชุดผู้หญิง รองเท้าผู้หญิง มีเสียงแบบผู้หญิง หรือเป็นผู้หญิงแต่มีเสียงห้าว ทุ่มแบบผู้ชาย และแต่งตัวด้วยชุดผู้ชายได้ ซึ่งนับเป็นความก้าวหน้าการเปิดกว้างอย่างมาก

7. Dream Daddy

เกม Dating Simulation ว่าด้วยเรื่องราวของพ่อและลูกสาวที่เพิ่งทำการย้ายถิ่นฐานไปตั้งหลักใหม่ ณ เมื่อง Maple Bay เมืองชายทะเลแสนน่าอยู่ คุณจะได้เจอ คุณพ่อคนอื่นๆ (ที่แน่นอนว่าโสดและจีบได้) มากหน้าหลายตา หลายสไตล์และหลากลักษณะนิสัย ซึ่งเขาอาจจะมาเป็นคนรักคุณได้ในอนาคต เกมนำเสนอเนื้อเรื่องที่น่าสนใจ ในลักษณะ Visual Novel นิทานภาพที่มีบทสนทนาที่เปลี่ยนแปลงไปตามคนที่เราพูดคุย มีฉากจบหลากหลายแบบ และแน่นอนกับเหล่าบรรดาคุณพ่อแสนโสดที่มีให้เลือกถึง 7 คน เกมมีอารมณ์ขันพอสมควร (มีการแซวเกมอื่นๆ ด้วย) ใครเป็นสายเสพภาพและเนื้อเรื่องไม่ควรพลาด Dream Daddy

8. Fire Emblem Fates

วางจำหน่ายเมื่อปี 2016 บนเครื่องเล่นพกพาอย่าง 3DS เกมแนว Turn-based วางแผน จากซีรีส์ Fire Emblem ชื่อดังจาก Nintendo และในภาค Fates นี้นับเป็นภาคแรกที่มีทางเลือกการแต่งงานของเพศเดียวกันให้กับผู้เล่น (ในภาคก่อนๆ แต่งงานได้เฉพาะคนต่างเพศเท่านั้น) ในภาคนี้ออกมา 2 เวอร์ชั่นซึ่งหากคุณต้องการความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกันแบบ ชาย-ชาย ให้ซื้อภาค Conquest ส่วนสำหรับความสัมพันธ์แบบ หญิง-หญิง ให้ซื้อภาค Birthright 

9. Overwatch

แม้จะเป็นเกมแนวยิง FPS Shooting ชื่อดังที่ดูไม่น่าจะมีอะไรที่เกี่ยวกับชาว LGBTQ ได้เลย ทว่าเนื้อหาของ Overwatch นั้นมีมากมายและ Blizzard เองก็ปล่อยออกมาเอาใจแฟนๆ อยู่อย่างเนืองๆ ทั้ง Short Animation และเนื้อเรื่องส่วนเสริมอื่นๆ ซึ่งตัวละครที่เป็นตัวชูโรงที่ใครๆ ก็รู้จักอย่าง Tracer นั้น ก็มีการเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาว่าเธอเป็น Lesbian และมีแฟนเป็นผู้หญิง (ซึ่งได้รับการเปิดตัวในฉบับ Comic) แฟนของเธอชื่อ Emily 

10. Stardew Valley

เกมแนว Farming Simulation ปลูกผัก ทำฟาร์ม ชื่อดังอย่าง Stardew Valley เองก็ถือเป็นเกมที่เปิดกว้างในด้านการแต่งงานกับเพศเดียวกันเป็นอย่างมาก คุณสามารถสร้างตัวละครเป็นชายหรือหญิงก็ได้ และสามารถจีบ NPC ตัวละครเพศใดก็ได้เช่นเดียวกัน ตัวเกมได้แรงบันดาลใจมาจากซีรี่ส์ Harvest Moon ที่แฟนเกมปลูกผักรู้จักกันดี ทว่า Features ภายในเกมมีความทันสมัยเฉกเช่นยุคปัจจุบัน (เกมปลูกผักภาคดั้งเดิมอย่างบนซุปเปอร์แฟมิคอมหรือ PS1 นั้นไม่สามารถแต่งงานกับเพศเดียวกันได้) และการแต่งงานกับ NPC เพศเดียวกันก็ถือเป็นหนึ่งใน Features หลักสำคัญที่ทำให้เกมนี้ประสบความสำเร็จอย่างสูงทั่วโลก

เป็นไงบ้างครับสำหรับ 10 เกมที่บอกเล่าเรื่องราวของชาว LGBTQ ซึ่งบอกได้คำเดียวเลยว่า เรื่องราวที่ว่ามาทั้งหมดนี้ สามารถดึงเสน่ห์ของตัวเกมออกมาได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งหลักฐานชั้นดีที่จะบ่งบอกได้ว่า ไม่ว่าเพศอะไร รสนิยมแบบไหนก็แล้วแต่ ไม่ได้เป็นสิ่งที่เลวร้ายอะไรเลย ขอเพียงแค่ใช้ชีวิตให้ได้อย่างมีความสุขก็พอแล้ว ทุกๆวันนี้ การเหยียดเพศของคนในสังคมยังคงมีให้เห็นอย่างชัดเจนมาก ไม่ว่าจะเป็นการใช้คำพูดอย่าง ‘สายเหลือง’, ‘ตีฉิ่ง’ หรืออะไรก็แล้วแต่ ซึ่งมันไม่ได้ฟังดูตลกหรือสนุกสนานเลย แต่กลับระคายเคืองจิตใจชาว LGBTQ ซะมากกว่า เพราะฉะนั้น การเลิกเหยียดเพศคนในสังคม การเลิกใช้คำดูถูกชาว LGBTQ จึงเป็นสิ่งที่ควรกระทำที่สุด และนำพาซึ่งการอยู่ร่วมกันในสังคมต่อไปอย่างสงบสุข สุดท้ายนี้ เชื่อว่าเกมทั้ง 10 เกมที่ยกมา จะสามารถเปิดมุมมองชาว LGBTQ ได้ไม่มากก็น้อย แล้วเพื่อนๆล่ะ มีเรื่องราวเกี่ยวกับชาว LGBTQ ในเกมไหนรึเปล่า ที่ชื่นชอบและอยากถ่ายทอดให้คนอื่นฟัง ลองแสดงความเห็นกันเข้ามาได้

Now Loading

ชอบเพลง Metal | บันเทิงกับการถ่ายรูป | ของโปรดคือเนื้อย่าง | เล่นเกมบ้างบางเวลา
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save