เกม

10 เกมบน Nintendo 3DS ที่ไม่สามารถหาเล่นได้อีกต่อไป

หลังจากการปิดตัวeShop จึงทำให้เกมดิจิทัลเหล่านี้ต้องโบกมือลาไปตลอดกาล

ปิดตัวลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับสำหรับสโตร์สำคัญอย่าง eShop บนอุปกรณ์ Nintendo 3DS หลังจากเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2011 และเป็นรากฐานให้กับบริการร้านค้าออนไลน์ในยุคปัจจุบัน ซึ่งแน่นอนว่า eShop นั้นมีความแตกต่างกับระบบ Shop Channel ของ Wii กับ DSi มากทีเดียว เพราะเกมที่วางจำหน่ายนั้นไม่ได้เป็นเกมขนาดเล็ก แต่ว่าเป็นประสบการณ์แบบเต็มราคาด้วย 

อย่างไรก็ตามบางเกมก็จะเป็นเกมแบบดิจิทัลดาวน์โหลดที่ไม่มีการผลิตตลับจำหน่าย นั่นหมายความว่าเกมเหล่านี้ไม่สามารถหาเล่นได้อีกต่อไปนั่นเอง ในโอกาสนี้ขอนำ 10 เกมโดดเด่นที่ผู้เล่นอาจจะไม่ได้เป็นเจ้าของอีกแล้วมาฝากกันด้วย ขอบอกเลยว่ามีครบทุกแนวทั้งแอ็กชัน พัสเซิล เรียกได้ว่าเป็นผลงานเกมที่หยิบมาเล่นได้ตลอดแบบง่ายๆ แต่จะมีเกมอะไรบ้างนั้นว่าแล้วอย่ารอช้ามาติดตามกันได้ข้างล่างนี้เลย

1. Dr. Mario: Miracle Cure

ต้นตำรับเกมมาริโอ้หยอดยาที่มาพร้อมกับกราฟิกรูปแบบสามมิติพร้อมให้ผู้เล่นไปลับสมองกันได้ในรูปแบบพกพา โดยวิธีเล่นก็คือจะต้องทำการหยอดแคปซูลไปในฉากให้ได้ 4 เม็ดด้วยสีเดียวกัน และเคลียร์ไวรัสที่มีสีเดียวกันให้หายไปให้หมด ซึ่งมีทั้งโหมดการเล่นแบบเดี่ยว, โหมดออนไลน์ รวมไปถึงโหมดที่เปลี่ยนกฎการแข่งขันใหม่ๆ ที่ไม่มีในเกมภาคต้นฉบับด้วย หนึ่งในนั้นคือไฮไลต์เด็ดอย่างการควบคุมเม็ดยาที่ร่วงลงมาด้วยหน้าจอสัมผัสนั่นเองครับ

2. Chibi-Robo: Let’s Go, Photo

เกมภาคเสริมของเจ้าหุ่นยนต์รักโลกตัวจิ๋วที่คราวนี้ได้ใช้ฟังก์ชันของ Nintendo 3DS ได้เต็มที่เลย โดยผู้เล่นจะต้องใช้กล้องในการถ่ายรูปวัตถุต่างๆ ในโลกแห่งความจริงตามรูปทรงต่างๆ ที่เกมได้กำหนดไว้เพื่อนำไปเข้าสู่พิพิธภัณฑ์อนุรักษ์สิ่งของจากโลกแห่งความหลัง ซึ่งระหว่างการเดินทางก็อาจจะเจอตัวละครใหม่ๆ และมีมินิเกมเพิ่มเติมเช่นการต่อสู้กับปีศาจ เกมเก็บสิ่งของ ทำความสะอาดพื้นที่รอบข้างแบบเกมต้นตำรับก็มีเหมือนกัน

3. Pokémon Battle Trozei

ขาดไม่ได้กับเกมพัสเซิลยอดฮิตภาคต่อของ Trozei ที่เคยลงบน Nintendo DS มาก่อน โดยผู้เล่นจะต้องทำการเรียงไอคอนโปเกม่อนหลากหลายชนิดให้ตรงกันได้มากกว่า 3 ไอคอนขึ้นไป พร้อมทำคอมโบเพื่อเพิ่มคะแนนให้ได้มากขึ้น และมีฉากการเล่นหลายสิบฉาก เช่นเดียวกับการแข่งขันรูปแบบมัลติเพลเยอร์และใช้ฟังก์ชัน StreetPass เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้เล่นคนอื่นระหว่างที่เรานำเครื่องไปเล่นเกมนอกบ้านได้เช่นกัน

4. Harmoknight

ผลงานเกมสุดสร้างสรรค์จากผู้สร้างโปเกม่อนที่ให้เรารับบทเป็น Tempo หนุ่มน้อยอัศวินแห่งเสียงเพลงที่เดินทางไปทั่วอาณาจักรเพื่อปราบศํตรูที่มารุกรานความสงบสุขของโลก วิธีการเล่นก็คือผู้เล่นจะต้องเคาะจังหวะตามเพลงในฉากให้ได้เพอร์เฟกต์ที่สุดเพื่อทำคะแนน โดยตัวละครจะเดินตามฉากไปอย่างอัตโนมัติ ยิ่งจังหวะเป๊ะเท่าไรก็ยิ่งได้คะแนนมากขึ้นไปตามๆ กัน

5. คอลเลกชันเกม Picross

อีกหนึ่งเกมพัสเซิลยอดนิยมจาก Nintendo DS ที่กลับมาให้เล่นอีกครั้งแถมยังเพิ่มความพิเศษด้วยการร่วมมือกับเกม Zelda หรือเกมอื่นๆ ในการทำปริศนาจากแฟรนไชส์นั้นๆ ด้วย โดยเกมนี้จะเป็นเกมที่ให้เราฝึกสมองด้วยวิธีลงสีในตารางที่มีตัวเลขกำหนดจนกลายเป็นรูปร่างออกมา โดยบางเกมก็เปิดให้ซื้อแยก แต่บางเกมก็จะเป็นสิทธิ์พิเศษสำหรับสมาชิก My Nintendo เท่านั้น ทั้งนี้ไม่ว่าจะเกมไหนก็เป็นเกมที่ต้องดาวน์โหลดผ่าน eShop ทั้งหมด

6. Pushmo

เกมเคลียร์ปริศนาแบบสามมิติที่ให้ผู้เล่นได้รับบทเป็นเจ้าหนู Mallo ตัวอ้วน ทำการดันกล่องสี่เหลี่ยมเพื่อเคลียร์พื้นที่ในฉากและช่วยเหลือเพื่อนๆ ที่ติดอยู่บนที่สูงหรือโดนขังให้ได้ โดยจุดเด่นคือระบบภาพสามมิติทำให้เราต้องสังเกตความลึก – ตื้นของกล่องนั้นๆ เพื่อดันเข้าและออกให้ Mallo เดินทางต่อได้ โดยนอกเหนือจากฉากการเล่นหลักกว่า 200 ฉากแล้ว ยังสามารถสร้างฉากเองและแชร์ผ่าน QR Code ได้เหมือนกัน ดังนั้นจะบอกว่าเป็นเกมที่มีด่านไม่จำกัดก็ว่าได้

7. คอลเลกชันเกม 3D Classics 

Nintendo ได้นำเกมจากเครื่องเล่นแฟมิคอมมาวางจำหน่ายใหม่บน eShop พร้อมกับใช้ประโยชน์ของระบบสามมิติอยู่ถึง 6 เกมเลย ไม่ว่าจะเป็น Excite Bike, Kirby หรือ Urban Champions ซึ่งทุกเกมจะมีฟังก์ชันแบบเดียวกับภาคต้นฉบับ แต่เพิ่มการสนับสนุนการแสดงผลภาพสามมิติแบบทะลุจอ ซึ่งภายหลัง SEGA ก็มีการเปิดตัวคอลเลกชันแบบเดียวกันในรูปแบบตลับ ให้แฟนๆ ได้ตะลุยโลกของเจ้าโซนิคและเกมแฟรนไชส์อื่นๆ มากมาย

8. Nintendo Badge Arcade

ต้องบอกเลยว่าเป็นเกมสุดเจ๋งที่ได้รับความนิยมกับสายตกแต่งเครื่องมากสำหรับเกมนี้ เพราะว่าทุกครั้งที่เข้าเล่นก็จะมีโอกาสได้รับไอเทมสำหรับตกแต่งหน้าเมนู Nintendo 3DS ด้วย โดยจะมีลักษณะเป็นเหมือนกับตู้คีบตุ๊กตา แต่ให้เราคีบของประกอบฉากต่างๆ ที่มีทั้งสไตล์ 8-bit หรือภาพอาร์ตเวิร์กสวยๆ เท่านั้นไม่พอยังเล่นฟรีได้ทุกวันหรือจะซื้อแต้มก็ไม่ว่า หากใครเก็บของได้ครบก็อาจจะเนรมิตเมนูจนกลายเป็นเหมือนหน้าจอเกมเลยก็ได้ครับ

9. Dillon’s Rolling Western

เกมแอ็กชันสุดสร้างสรรค์ที่ให้ผู้เล่นรับบทเป็นอาร์มาดิลโลสไตล์คาวบอยผู้ปกป้องภัยอันตรายจากเหล่าปีศาจ Grocks หินเดินได้ วิธีการเล่นก็คือ Dillon ตัวละครเอกจะต้องทำการกลิ้งไปชนกับพวกมัน แต่จะอัปเกรดความสามารถในการใช้ปืน ตั้งป้อมปราการก็ได้ ภายหลังยังมีเกมภาคต่อในชื่อ The Last Ranger ที่เพิ่มระบบการเล่นรูปแบบวางแผนการรบเข้ามาด้วยเหมือนกัน ว่าแล้วก็อยากให้มีกลับมาวางจำหน่ายใหม่นะเนี่ยเพราะไอเดียดีจริงๆ รับ

10. The Legend of Zelda: Four Swords Anniversary Edition

ปิดท้ายด้วยเกมเซลด้าในโอกาสพิเศษที่นำเกมภาค Four Swords กลับมารีมาสเตอร์ใหม่อีกครั้ง โดยก่อนหน้านี้ตัวเกมต้องบังคับให้มีผู้เล่นตามจำนวนกำหนด 2 คนขึ้นไป แต่เวอร์ชั่นนี้ได้เปลี่ยนมาให้รองรับการเล่นแบบโซโล่ได้แล้วด้วย ความพิเศษก็คือนอกจากโหมดเนื้อเรื่องหลัก ผู้เล่นยังสามารถเข้าไปเล่นในฉากพิเศษที่ออกแบบตามเกมเซลด้าในยุคเกมบอย, แฟมิคอม และซูเปอร์แฟมิคอมได้เช่นกัน

ทั้งหมดนี้ยังเป็นแค่เกมบางส่วนเท่านั้น แต่ความจริงแล้ว Nintendo eShop ยังมีเกมสนุกๆ ที่น่าเสียดายอีกหลายเกมเลยทีเดียว หากเพื่อนๆ คนไหนมีเกมอะไรมาแบ่งปันรายชื่ออีกก็ลองมาแลกเปลี่ยนความเห็นกันได้ครับ

ผู้เขียน : GantaroZX

Now Loading

ชอบเพลง Metal | บันเทิงกับการถ่ายรูป | ของโปรดคือเนื้อย่าง | เล่นเกมบ้างบางเวลา
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save