เครื่องเล่นเกมในดวงใจของแฟนเกมวัยเก๋าถูกนำมาผลิตในรูปแบบของโมเดลประกอบ
Bandai บริษัทผู้พัฒนาโมเดลประกอบยักษ์ใหญ่อย่างกันพลาโมเดล ได้ตัดสินใจผลิตโมเดลประกอบเครื่องเล่นเกมในตำนานอย่าง PlayStation มาให้เราได้ซื้อไปประกอบกัน โดยมาในชื่อ BEST HIT CHRONICLE PlayStation อัตราส่วน 2/5 ซึ่งในตอนนี้โมเดลนี้ก็มีวางจำหน่ายในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยครับ
ข้อมูลทั่วไปของโมเดล (อ้างอิงจากเว็บไซต์ bandai-hobby.net)
25 ปีก่อน PlayStation ได้เปลี่ยนชีวิตการเล่นเกมของวัยเรียนและผู้คนไปตลอดกาล และที่สุดเครื่องเล่นเกมภายในบ้านเครื่องแรกที่สร้างการเปลี่ยนแปลงในชีวิตของใครหลายคน ได้ถูกนำมาทำเป็นโมเดลพลาสติกประกอบให้ผู้ที่สนใจมาซื้อไปประกอบในซีรี่ส์ BEST HIT CHRONICLE
โดยเป้าหมายของการผลิตโมเดลคือ การนำรายละเอียดของเครื่องเล่นเกม PlayStation ที่วางจำหน่ายไปในวันที่ 3 ธันวาคม 1994 มาทำเป็นโมเดลให้ผู้ที่สนใจซื้อไปประกอบ และสะสมด้วยเทคโนโลยีที่จะทำให้ทุกคนได้สัมผัสเครื่องเล่นเกมในตำนานแบบย่อส่วน
– องค์ประกอบที่ถูกสร้างขึ้นมา พร้อมกับสีที่ถูกออกแบบมาตรงกับเครื่องจริง ๆ
– รายละเอียดต่าง ๆ ทำออกมาได้สมบูรณ์แบบ เช่นปุ่มจอย และสวิตช์ที่สามารถกดได้จริง ๆ
– นอกจากส่วนประกอบภายในแล้ว รายละเอียดด้านหลังเครื่อง ที่เป็นช่องเสียบสายต่าง ๆ ก็ทำออกมาได้เหมือนจริง
– นอกจากเครื่องแล้ว โมเดลนี้ยังมีจอย เม็มโมรี่การ์ด และแผ่นดิสก์แบบใสที่ถูกทำออกมาให้ใช้งานกัน
– เม็มโมรี่การ์ด สามารถเสียบ หรือถอดออกจากเครื่องได้จริง ๆ
หากใครสนใจสั่งซื้อโมเดลนี้ ก็สามารถมาซื้อได้ที่นี่ครับ
VCAGundam – >>คลิก<<
MetoyGundam – >>คลิก<<
หากใครสนใจอยากอ่านรีวิว ล่าสุดทางคุณ Sato นักข่าวจาก soranews24 ได้ซื้อมาทดลองประกอบแล้วรีวิวให้เราชมกันคร่าว ๆ ครับ
โมเดลเครื่องเล่นเกม PlayStation ไม่จำเป็นต้องใช้กาวในการประกอบ แต่ควรจะใช้คีมตัดสักอันเพื่อความสวยงามของชิ้นงาน
ในส่วนของแผงวงจรนั้นคุณ Sato บอกว่าโมเดลนี้ทำให้เขานึกถึงตอนที่เขายังเด็กเมื่อเขาเปิดหนังสือนิตยสารดูสเป็คของเครื่องเล่นเกม ซึ่งการมาของ PlayStation ถือเป็นการก้าวกระโดดทางเทคโนโลยีเกม จากยุค 16-bit มาเป็นยุคใหม่ โดยโมเดลนี้ถูกออกแบบมาได้ดีมาก น่าเสียดายเล็กน้อยที่แผงวงจรนี้ไม่ได้ทำการแยกสีในส่วนของชิพมาให้ รวมถึงไม่มีสติ๊กเกอร์อีกด้วย ทำให้คุณ Sato ต้องทำสีเองเพื่อความสมบูรณ์แบบของชิ้นงาน
ในส่วนของจอยนั้นจะมีแผงวงจรด้านในมาให้ด้วย ในขณะที่ปุ่ม D-Pad นั้นจะเป็นพลาสติกชิ้นเดียว (ซึ่งพอประกอบเสร็จก็จะดูไม่ออก) โดยสัญลักษณ์ต่าง ๆ บนจอยจะเป็นสติ๊กเกอร์ใสมาให้เราได้แปะ
นอกจากนี้ Bandai ยังมีแผ่นดิสก์ที่ทำจากพลาสสิกใสมาให้เราใช้งานด้วย โดยข้อควรระวังคือการแปะสติ๊กเกอร์เพราะสติ๊กเกอร์นี้จะมาเป็นแผ่นวงกลม 1 แผ่นใหญ่พอสมควรครับ
เมื่อประกอบเสร็จคุณ Sato พบว่าฝาเปิดใส่แผ่นนั้นสามารถกดเปิดได้จริง ๆ โดยภายในจะมีแผ่นให้เราได้เห็นกัน (แต่ไม่น่าจะหมุนได้)
ที่ด้านหลังของเครื่องยังมีช่องให้เสียบสายต่าง ๆ เช่น Adapter, AV เป็นต้น ด้านหน้าจะมีช่องให้เสียบจอยอีกด้วย เรียกได้ว่าทำมาได้สมจริงมาก ๆ ซึ่งคุณ Sato บอกว่าโมเดลนี้เหมือนกับเครื่องในยุค 1994 มาก ๆ
สำหรับโมเดลนี้มีราคาอยู่ที่ประมาณ 890-1,000 บาทในประเทศไทย หากใครสนใจก็ลองดูได้ที่ร้านขายโมเดลทั่วไปใกล้บ้านท่านได้เลยครับ
