ผู้เขียน : GantaroZX
หมายเหตุ: การรีวิวเนื้อหาเสริมนี้อ้างอิงจากประสบการณ์การเล่นบน Xbox Series X ประสบการณ์ที่ได้รับอาจมีความแตกต่างกัน
และแล้วก็ถึงเวลาที่แฟนบอยของ Resident Evil จะได้กรี๊ดกันเสียทีครับเพราะว่าในที่สุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา CAPCOM ก็ได้ประกาศคอนเทนต์เสริมของเกมภาค 4 เวอร์ชันรีเมคเป็นที่เรียบร้อยแล้วพร้อมกับวางจำหน่ายแบบทันทีทันใด ซึ่งแน่นอนว่าในฐานะที่ตัวละครนี้เองก็เป็นหนึ่งในตัวละครที่มีความลับมากที่สุดในวงการเกม อีกทั้งยังแฝงไปด้วยความเซ็กซี่ระดับสวยประหาร จึงไม่น่าแปลกใจที่จะสร้างฐานแฟนคลับได้มากเป็นอันดับต้นๆ เหมือนเหล่าตัวละครเอก และในเมื่อถึงคิว Ada ที่จะได้เป็นตัวนำ มีหรือแฟนเกมอย่างผมจะไม่ขอหยิบมารีวิว แต่จะมีความประทับใจอย่างไรมาติดตามกันข้างล่างนี้ดีกว่า!
【การตีความที่ไม่เหมือนเดิม】
เรื่องราวของ Separate Ways พูดถึงการทำภารกิจของ Ada ที่เป็นเหมือน ‘ทางที่แยกออกจากกันของตัวเอก’ โดยมีการตีความใหม่ทั้งหมดแม้ว่าจะใช้โครงเรื่องแบบเดิมคือสายลับสาวหมวยต้องมาตามหา Las Plagas ให้กับพี่แว่นดำ Wesker ซึ่งมาถึงก็สังเกตได้ตั้งแต่เห็นครั้งแรกเลยว่าถูกรีเมคขึ้นมาโดยไม่ได้ใช้เกมภาคต้นฉบับเป็นต้นแบบมากเท่ากับเนื้อหาแคมเปญหลักของ Leon ที่เราจะเห็นฉากคุ้นๆ กันตลอดแทบทุกตอน
นอกจากนี้ Ada ยังต้องเจอกับศัตรูใหม่ที่ทำให้เธอติดเชื้อปริศนาบางอย่างด้วย ถือเป็นการพลิกบทจากเดิมที่สาวเจ้าไม่เคยที่จะเสียท่าให้ศัตรูที่ไหนมาก่อน ตรงนี้เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมากเพราะว่าเราเดาไม่ถูกเลยว่าจะเป็นแบบไหนต่อ เพราะอาการของเธอก็จะมาๆ หายๆ กระนั้นแล้วโดยรวมถ้าเคยเล่นโหมดนี้จะเวอร์ชันก่อนๆ จะพอเดาโครงเรื่องช่วงแรกได้ว่าเราต้องไปเจออะไร แต่ช่วงหลังถึงจะมีการเซอร์ไพรส์มากขึ้นครับ คิดเสียว่าส่วนนี้ถูกเพิ่มเข้ามาเพื่อให้มีมิติมากกว่าเดิม และเอาเข้าจริงซีนที่โผล่มานั้นเดาไม่ออกเยอะเหมือนกัน
สิ่งที่รู้สึกว่าต่างไปจากเดิมอีกหนึ่งอย่างก็คือลักษณะนิสัยของ Ada ดูเหมือนว่าจะตีความให้ไม่มีความเป็น Anti Hero แล้ว แต่เหมือนเป็นตัวละครแบบฝ่ายดีชัดเจนเลยแม้ว่าตัวเองจะมาทำภารกิจที่อาจส่งผลต่อมนุษยชาติก็ตาม ทว่าเราจะทราบถึงแรงจูงใจและสิ่งที่ทำให้เธอมีความคิดเปลี่ยนแปลงไปจากการเป็นทหารรับจ้างสายดาร์กแบบภาคสองในระหว่างการเล่นนั่นแหละ ตรงนี้อยากให้ไปลุ้นอีกที ฉันใดก็ดีผมแอบรู้สึกว่ามันขัดกับท่าทีของเธอในเกมภาคเก่าๆ ที่ไม่เคยรีเมค
【ความแตกต่างจากแคมเปญหลักมากน้อยแค่ไหน?】
ด้วยความที่เวอร์ชันต้นฉบับได้วางให้โหมดเนื้อเรื่องนี้จัดเป็น ‘มินิเกม’ ดังนั้นก็จะไม่ได้อาศัยความซับซ้อนในการเล่นหรือมีปริศนาให้แก้ไขมากมายขนาดนั้น (แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีเลย ซึ่งจะไปเล่าในหัวข้อถัดไปแทน) ทว่าก็จะเป็นการเซอร์วิสผู้เล่นที่อยากเล่นเป็น Ada แบบเต็มๆ พร้อมจับตัวละครใส่เข้ามาในฉาก ทำคัตซีน เน้นเล่นเคลียร์ฉากเป็นเส้นตรงมากกว่า ดังนั้นการเล่าเรื่องใหม่ของ Separate Ways จึงได้ทีมงานของ M-Two ที่เน้นเอาใจสายแอ็กชันมากขึ้นมาร่วมงาน และมั่นใจได้ว่าจังหวะการเล่าเรื่องทำให้วิ่งแปบๆ ก็จะเจอกับการบู๊บ่อยมาก นึกถึง Resident Evil 3 ขึ้นมาทันที
อย่างที่กล่าวเอาไว้ว่า Separate Ways ในเวอร์ชันรีเมคไม่ได้เป็นมินิเกมอีกต่อไป ดังนั้นการให้ความสำคัญของ CAPCOM จะได้รับการดูแลเหมือนกับเป็นแคมเปญย่อยเลย นั่นคือมีการตามหาอาวุธ มีช่องเซฟแยกให้เลย เนื้อหาก็แบ่งออกเป็นแชปเตอร์ และมีพ่อค้าให้เราอัปเกรดอาวุธ ซื้อขายไอเทม (ภาคต้นฉบับแบ่งเป็นตอนขนาดสั้นมากและอัปเกรดอาวุธไม่ได้) แต่ความต่างก็คือแอเรียที่ Ada ได้ไปเยี่ยมเยือนนั้นผสมผสานกันทั้งฉากใหม่และฉากเก่า ซึ่งถ้าฉากเก่าก็จะเป็นการวิ่งย้อนกลับหรือไปในมุมอื่นๆ ที่เราไม่ค่อยเห็น ดังนั้นความรู้สึกจึงเหมือนว่าเป็นความแปลกใหม่เกือบตลอดเวลาเลย
ผสมของก็ได้เหมือนเดิมนะ
【ลูกเล่นที่มากกว่าเดิม】
นับตั้งแต่เกมภาค 4 เวอร์ชันต้นฉบับเป็นต้นมา เราจะเห็นว่า Ada มีการนำเสนอให้เป็นสปายสาวที่มาพร้อมกิมมิคและของเล่นมากมายที่มาเรียกเสียงกรี๊ดทุกครั้งที่เธอปรากฏตัว เริ่มต้นจากปืนสลิงที่มีบทบาทมากขึ้นเพราะไม่ได้ทำหน้าที่ไว้ยิงสลิงเพื่อขึ้นสู่ที่สูงแล้ว แต่ Ada สามารถประยุกต์ใช้กับสถานการณ์ต่างๆ รวมไปถึงเป็นส่วนหนึ่งของ Melee ด้วย นั่นคือปืนนี้ใช้เพื่อต่อสู้ในระยะไกลได้แล้ว (โกงกว่าเดิมอี๊ก!) และด้วยความปราดเปรียวของเธอก็ทำให้เกมเพลย์เร็วขึ้น วิ่งก็เร็วขึ้นกว่า Leon อีก ต่อมาก็คือ I.R.I.S. หรือระบบการแกะรอยที่ Ada สามารถใช้เพื่อแก้ปริศนาต่างๆ โดยจะเป็นจุดที่บังคับใช้อยู่แล้วตามเนื้อเรื่องอยู่แล้ว ส่วนนี้ดูเท่แต่มันเบรคอารมณ์เกินไปและไม่คิดว่าจำเป็นขนาดนั้นครับ และสุดท้ายคืออาวุธจะมีของพิเศษอื่นๆ เช่นหน้าไม้ยิงระเบิด หรือปืนพกพิเศษขนาดเล็กจิ๋วแต่ยิงรัวมาก!
【Easter Egg เยอะมาก!】
ก่อนอื่นในส่วนนี้อยากบอกว่าไม่รู้ควรจะเรียกว่า Easter Egg ดีไหมเพราะมันเป็นเหมือนกับส่วนประกอบจากเนื้อหาหลักที่เรารู้สึกว่า… เฮ้ย! มันหายไปไหน เช่นฉากการต่อสู้กับศัตรูบนกระเช้า การกระโดดหลบเลเซอร์ ที่เคสหลังแอบขำนิดๆ เพราะเป็นจุดเดียวของเกมที่ใส่ QTE เข้ามาแบบเลี่ยงไม่ได้ (ฮา) แต่จุดที่คิดว่าเป็น Easter Egg จริงๆ มันก็มีนะ เช่นการพูดคุยโต้ตอบกันกับ NPC พ่อค้า หรือไดอะล็อกที่ตัวละครพูดฟังแล้วมันคุ้นหูหลายประโยคเลย และสิ่งเหล่านี้ก็เลยทำให้ Separate Ways เป็นการเติมเต็มให้เกม ‘เต็ม’ กว่าเดิมแบบที่จะกล่าวต่อไปนี้
【เติมเต็มเกมหลักให้ ‘เต็ม’ ยิ่งขึ้น】
Separate Ways เพิ่มมิติของเกมให้เราเข้าใจการกระทำของตัวละครมากขึ้ ซึ่งน่าแปลกมากที่แคมเปญหลักเองเราก็จะพบว่าไม่มีจุดที่เป็น Plot Hole มากขนาดนั้นและมันก็มีความสมบูรณ์ในตัวไปแล้ว แต่พอเราได้เห็นว่า Ada มีส่วนหรือมีบทบาทอย่างไรกับภารกิจของ Leon ในครั้งนี้ก็เลยทำให้ Resident Evil 4 มีความกลมกล่อมยิ่งกว่าเดิมผ่านเนื้อหาทั้ง 7 บท แถมสิ่งที่เพิ่มเข้ามาก็ไม่มีจุดไหนสมเหตุสมผลเลย ทั้งยังสามารถหลอมรวมเข้ากับเนื้อเรื่องหลักได้เป็นอย่างดี เพิ่มความเซอร์ไพรส์ตรงท้ายที่อาจจะปูทางไปยังเกมรีเมคลำดับถัดไปด้วย ท้ายที่สุดนี้มีจุดที่สงสัยอย่างเดียว และยังสงสัยไม่หาย ทั้งที่ Ada น่าจะเหมาะกับสาย Stealth ทำไม๊… ชีถึงมีคลังแสงระเบิดเถิดเทิงจังหว่า
【บทสรุป】
Separate Ways ทำให้ผมรู้สึกเหมือนว่าเราไม่ได้เล่นเกม Resident Evil ที่มาพร้อมแอ็กชันสนุกๆ กันมานานแล้ว อยากชมสุดๆ ก็ตรงที่จังหวะการเล่าที่ชวนลุ้นตลอดเวลาแบบไม่มีจุดเอื่อย แถมเนื้อหาก็ไม่ได้สั้นหรือว่ายาวเกินไป ใช้เล่นให้จบในวันเดียวได้แบบสบายๆ อีกทั้งมีของขวัญไว้ให้สำหรับผู้เล่นหลังจบเกมหลายอย่างที่ทำเอาแทบกรี๊ด หากใครคาดหวังอยากเล่นโหมดนี้มาตั้งแต่แรก อยากการันตีว่าคุ้มค่าจริงๆ ครับ
Resident Evil 4 วางจำหน่ายแล้วบน PlayStation 5, PlayStation 4, Xbox Series X|S และ PC เนื้อหาของเกมมีความเกี่ยวข้องกับภารกิจของ Leon S. Kennedy ที่ได้รับมอบหมายให้ไปตามหา Ashley ลูกสาวของประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาที่ถูกลักพาตัวไปในปี 2004 จนกระทั่งพบว่ามีความเกี่ยวโยงกับอาวุธชีวภาพปรสิตที่เรียกว่า Las Plagas ซึ่งในเวอร์ชั่นต้นฉบับถือเป็นเกมที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับซีรีส์ด้วยเกมเพลย์ที่ทันสมัยมากขึ้น และมีส่วนผสมของความเป็นแอ็กชันกับสยองขวัญอย่างลงตัว