เกม

17 เกมแนววางแผนที่ดีที่สุดตลอดกาล!

รวบรวมเกมเก่าเปี่ยมคุณภาพในความทรงจำของใครหลายคน

ผู้เขียนเชื่อว่าเกมเมอร์ไม่ว่าจะวัยเก๋า วัยใหม่ จะต้องผ่านเกมวางแผนมาไม่มากก็น้อย วัยเก๋าเองคงจะคุ้นเคยกับการฝึกวนฐานอย่าง Battle Realms หรือแม้กระทั่งหมูมะนาวอย่าง Red Alert ในขณะที่เกมเมอร์รุ่นใหม่ก็คงคุ้นเคยกับเกมวางแผนอย่างพวก Total War, Sid Meier Civilization หรือแม้กระทั่ง Starcraft แต่แน่นอนว่าเกมวางแผนนั้นไม่ได้มีแต่การวางแผนการรบนะครับ เกมวางแผนในที่นี้ยังรวมถึงวางแผนการบริหารจัดการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารจัดการเมืองอย่าง Cities: Skylines หรือเกมทำฟาร์มต่าง อย่าง Stardew Valley ก็เช่นกัน ในวันนี้ผู้เขียนจะพาไปดู 17 เกมวางแผนที่ที่ดีที่สุดตลอดกาล ที่เว็บไซต์ต่างประเทศได้เรียบเรียงไว้ครับ

1. StarCraft II

เป็นเกมที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียวกับเกม RTD ของทาง Blizzard ที่มีมาทั้งหมด 2 ภาคหลักด้วยกัน โดย Starcraft 2 จะแบ่งเนื้อเรื่องออกเป็น 3 ฝ่ายอย่างชัดเจน สิ่งที่ทำให้เกมนี้ติดโผได้ก็มีมากมายไม่ว่าจะเป็นโหมดแคมเปญที่หลากหลาย ความแปลกใหม่ของตัวละคร เรื่องราวที่น่าติดตาม รวมถึงระบบการเล่นที่ต้องใส่ใจถึงความละเอียดของเกมเพลย์ ซึ่งหากใครได้ลองเล่นแล้วจะรู้ว่า ความแตกต่าง หรือความผิดพลาดเพียงนิดเดียวก็จะทำให้เกมพลิกได้เลยทีเดียว

2. Cities: Skylines

SimCity เป็นหนึ่งในเกมสร้างเมืองที่ยากที่จะมีใครล้มได้ อย่างไรก็ตาม Skylines เป็นเกมที่ทำออกมาได้ดีทัดเทียมกับเกม SimCity โดยเกมนี้จะมีความเปิดกว้างมากกว่า รวมถึงระบบการสร้างเมืองแบบสมบูรณ์แบบเข้ามาใช้ ระบบมุมกล้องที่โดดเด่น และเครื่องมือต่างๆ ที่จะใช้ในการสร้างคมนาคมต่างๆ ตั้งแต่บนดิน ลงใต้ดิน รวมถึงการวางท่อระบายน้ำตามเมืองด้วย

3. Stardew Valley

ช้าก่อน.. ก่อนจะตกใจว่าทำไมเกมนี้ถึงมาอยู่ในลิสต์ อย่างที่บอกไปว่าเกมวางแผนไม่ได้หมายถึงเกมเน้นทำสงครามเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งเกมปลูกผักยุคใหม่ที่สามารถสร้างชื่อได้ดีแบบสุดๆ ก็ไม่พ้น Stardew Valley ยิ่งการเพิ่มเติมระบบ Co-op เข้ามายังทำให้เกมนี้โดดเด่นมากยิ่งขึ้น เกมนี้คุณจะได้วางแผนการปลูกผักล่วงหน้าโดยต้องศึกษาถึงข้อจำกัดต่างๆ ให้ดี ตัดสินใจว่าจะปลูกพืชอะไร และที่ไหนเพื่อให้ได้กำไรสูงสุด นอกจากนี้คุณยังต้องบริหารเวลาที่มีอยุ่อย่างจำกัดในการทำกิจกรรมต่างๆ รวมถึงตัวเกมที่มีเกมเพลย์หลากหลายตั้งแต่จีบสาว ตะลุยดันเจี้ยน รวมถึงมีระบบ RPG เข้ามาในเกมด้วย

4. FTL: Faster Than Light

เกมลูกผสมระหว่าง RTS และ roguelike ซึ่งเกมนี้เป็นเกมที่ผู้เล่นจะต้องควบคุมตัวละครในการปกป้องเครื่องปั่นไฟ ซ่อมแซมกำแพง และป้องกันการรุกรานจากศัตรู การเล่นแต่ละครั้งอาจแตกต่างกันอย่างมากในยุทธวิธี ตามชนิดของเรือและศัตรูที่เจอ นอกจากนี้ผู้เล่นจะต้องจัดสรรทรัพยากรที่มีให้ดีที่สุด เพื่อใช้ในการอัปเกรดยานของเราครับ

5. WarCraft III

เกมวางแผนการรบระดับยักษ์ที่พร้อมจะพาผู้เล่นดำดิ่งไปกับเนื้อเรื่องสุดล้ำลึก และเกมเพลย์สุดมันส์ โดยตัวเกมนี้ได้รับความนิยมมาก จนทีมพัฒนาได้พัฒนาภาคเสริมอย่าง Reign of Chaos และตามมาด้วย The Frozen Throne ที่เป็นภาคที่ยืนยันถึงความสำเร็จของเกมนี้ได้ดีที่สุด โดยเกมนี้จะไมได้เน้นไปที่ฮีโร่ในเกมเหมือนกับ Starcraft แต่เกมนี้จะทำให้ผู้เล่นใช้ตัวละครที่มีให้ดีที่สุด รวมถึงเกมนี้ยังมีการนำมา Mod จนกลายเป็นเกม DotA ในปัจจุบันครับ

6. Warhammer 40,000: Dawn of War II

แม้ว่าจะมีการเถียงกันว่าระหว่าง Dawn of War ภาคแรก กับภาค 2 อันไหนดีกว่ากัน แต่ในบทความนี้ผู้เขียนสนใจภาค 2 มากกว่าด้วยโหมดแคมเปญที่เหมือนหนังสงครามที่หน่วยรบหน่วยหนึ่งจะต้องออกตะลุยกับศัตรูจำนวนมาก โดยตัวละครแต่ละตัวก็มีลักษณะนิสัย และบทบาทในการต่อสู้แตกต่างกันไป โดยเกมเพลย์เกมนี้จะไม่ได้นำเสนอให้เราได้บุกไปยิงเฉยๆ แต่ผู้เล่นจะต้องรู้จักการอ่านรูปแบบการโจมตีของศัตรู ใช้ที่กำบังให้เป็นประโยชน์เพื่อเอาชนะศัตรูให้ได้

7. Rise of Nations

Big Huge Games เป็นเกม RTS ที่จะพาผู้เล่นตะลุยผ่านยุคต่างๆ มาเรื่อยๆ ตั้งแต่อดีตเก่าแก่ ระบบใหม่ต่างๆ ของเกมนี้ได้ถูกเพิ่มขึ้นมา ว่าจะเป็นป้อมปราการ ความเสี่ยงใหม่ และโอกาสที่จะทำให้การปล้มสดมภ์แบบ hit-and-run ได้ดีขึ้น เกมเพลย์ต่างๆ ที่ถูกออกแบบมาทำให้มีความรู้กเหมือนเล่น Are of Empires ในรูปแบบพัฒนาขึ้น ทำให้เกมนี้น่าสนใจไม่น้อยเลยล่ะครับ

8. Company of Heroes 2: Ardennes Assault

Relic สามารถทำเกมที่เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 2 ได้ดีไม่แพ้กับ Nolan หรือ Spielberg สร้างหนังเลยแม้แต่น้อย นอกจากการยิงกันแล้วผู้เล่นยังต้องคอยสังเกตในเรื่องของกำลังใจ การควบคุมทรัพยากร และการวางแผนการโจมตีให้เกิดระสิทธิภาพมากที่สุด นอกจากนี้ผู้เล่นจะยังได้ฟังบทสนทนาในเกมที่บอกเลยว่าเขียนอออกมาได้สุดยอดมากทีเดียวครับ

9. Mount & Blade: Warband

Mount & Blade: Warband อาจจะดูไม่เหมือนเกมวางแผนเท่าไหร่เพาะรูปแบบของเกมเพลย์ที่เน้นไปในการต่อสู้ระยะประชิด แต่ใครจะรู้ว่าจริงๆ แล้วเกมนี้คือเกมวางแผนชั้นยอดทุกกระบวนการ ตั้งแต่การเลือกกองทัพที่คุณจะนำไปสู้ การไต่เต้าสู่อำนาจสูงสุดด้วยวิธีการต่างๆ ตั้งแต่การแต่งงาน การแย่งชิง และการหักหลัง นอกจากนี้ยังมีในส่วนของการต่อสู้ที่ไม่ใช่แค่เราจะวิ่งเข้าไปฟันเฉยๆ ได้เพราะในเกมนี้จะสมจริงเป็นอย่างมาก เราโดนฟันไม่กี่ทีก็อาจถึงตายได้ ฉะนั้นเราวางแผนในการเข้าต่อสู่นั้นก็จำเป็นไม่แพ้กัน

10. Total War: Warhammer II

แม้ว่าเกมนี้จะเป็นเกมที่แปลกออกไปด้วยธีมแฟนตาซีที่ไม่ค่อยได้พบเจอในเกมซีรี่ส์ Total War แต่ด้วยความที่เป็นแฟนตาซีทำให้การวางแผนของเกมนี้ล้ำลึกมากขึ้นไป ตั้งแต่การควบคุมมังกรให้บินข้ามหัวกองทัพไปเผาอีกฝ่ายให้ราบคาบ การใช้หน่วยเอล์ฟป่าเข้าลอบเร้นทำลายกองทัพ โดยแผนที่ Mortal Empires ก็เป็นการผสมผสานกับ Warhammer และ Warhammer II ทำให้เกมนี้มีความโดดเด่นมากขึ้นไปอีก

11. Sid Meier’s Civilization V

1 ยูนิต ต่อ 1 ช่อง เป็นนิยามที่ดีสำหรับเกมนี้เลยทีเดียว และด้วยรูปแบบเกมเพลย์แบบนี้เองทำให้เกมนี้มีความแปลกใหม่ และต้องใช้สมองในการวางแผนอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีภาคเสริมอย่าง Gods & Kings และ Brave New World ที่ทำให้เกมนี้โดดเด่นมากขึ้นไปอีก รวมถึงจำนวนประเทศที่เล่นได้ก็มีมากมาย ซึ่งแต่ละประเทศก็จะมีจุดเด่นแตกต่างกันไป รวมถึงรูปบบเกมเพลย์ที่มีรายละเอียดในการเอาชนะหลากหลายทาง ทำให้เกมนี้มีความน่าสนใจมากขึ้นไปอีกครับ

12. XCOM 2

XCOM อาจจะเป็นเกมที่สร้างความสำเร็จได้ดี ในขณะที่ XCOM 2 ก็เป็นเกมที่สามารถสร้างชื่อเสียงต่อเนื่องได้ไม่แพ้กัน โดยเกมนี้ยังคงรูปแบบเกมเด่นๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบเกมเพลย์การต่อสู้ การวางแผน การใช้ชั้นเชิงในการจัดการบริหาร ในขณะที่ภาค 2 นั้นได้นำเสนอทหารหน่วยใหม่ รวมถึงศัตรูชนิดใหม่มากมาย โหมดแคมเปญที่ซับซ้อนแต่ท้าทายกว่าภาคแรก ทำให้เกมนี้ติดโผมาได้สบายๆ ครับ

13. Total War: Attila

เกม Total War ที่อ้างอิงจากประวัติศาสตร์จริง ซึ่งในภาค Attila จะพาผู้เล่นเข้าสู่ยุดของ Western Roman Empire ในช่วงยุคกลาของยุโรป ซึ่งระบบแคมเปญก็มีรายละเอียดให้ทำมากมาย ระบบสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง ผู้เล่นจะต้องช่วงชิงแผ่นดิน และเมืองเพื่อสร้างจักรวรรดิให้ได้ อีกทั้งยังต้องต่อสู้กับพวกฮั่นที่รุปรานมาจากทางตะวันออกทำให้เกมนี้มีความกดดัน และท้าทายมากเกมหนึ่งเลยทีเดียว

14. Crusader Kings II

เป็นเกมที่มีความคล้ายคลึงกับ StarCraft แต่มันยุ่งเหยิงกว่า และวุ่นวายกว่ามา ซึ่งผู้เลนใหม่นั้นหัวเสียเอาง่ายๆ เลยทีเดียว อย่างไรก็ตามความยุ่งเหยิงและวุ่นวายนี้ทำให้เกมนี้ก้าวขึ้นมาเป็นเกมวางแผนที่น่าสนใจมากที่สุดเกมหนึ่งเลยทีเดียว ด้วยตัวเกมที่มุ่งเน้นไปที่ตัวละครเดียวที่ชอบ ไม่ชอบ หรือความรู้สึกอื่นๆ ทำให้เกิดประสบการณ์ที่แปลกใหม่ และเมื่อคุณพบว่าคุณได้เล่นเป็นจักรพรรดินีที่มีตาเดียว แถมเป็นเพศที่สามที่ต้องการตามหา Necronomicon เพื่อแก้แค้นคนที่ฆ่าลูกชายคนแรกของคุณ ซึ่งบอกเลยว่าทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามคาดหวังเสมอ เพราะระบบของเกมที่ถูกออกมาให้คาดเดาได้ยากทำให้เกมนี้เป็นอีกเกมที่น่าสนใจครับ

15. StarCraft: Brood War

ยังคงเป็นตำนานอยู่สำหรับเกมที่ต้องยอมรับว่ายังไม่มีเกม RTS เกมไหนสามารถก้าวข้ามเกมนี้ไปได้เลยด้วยความสมดุลของทั้ง 3 ฝ่ายในเกม นอกจากนี้รายละเอียดปลีกย่อยต่างๆ ของเกมนี้ก็ทำให้ผู้เล่นหลายคนได้พยายามพัฒนาฝีมือของตัวเองเป็นอย่างมาก นอกจากการเล่นเองแล้ว ก็นั่งดูคนอื่นเล่นเกมนี้เองก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน ยิ่งการแบ่งบันระดับโลกยิ่งบีบหัวใจคนดูแบบสุดๆ แม้ว่าภาคต่ออย่างภาค 2 จะทำออกมาได้ดี แต่ก็ด้อยกว่าภาค Brood War ในส่วนของเนื้อเรื่องของเกม ทำให้ StarCraft: Brood War ขึ้นมาในตำแหน่งนี้สบายๆ

16. Command & Conquer Red Alert 2 + Yuri’s Revenge

เกม RTS ที่ฮิตที่สุดในบ้านเราจะเป็นเกมอื่นไปไม่ได้เลยนอกจากเกมนี้ ด้วยธีมเกมที่เป็นยุคปัจจุบัน เป็นสิ่งที่อยู่บนโลก มีสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริงมีสถานที่จริง เหมือนจำลองเอาสงครามต่างๆที่เกิดขึ้นบนโลกมาดัดแปลงใหม่ลงบนเกมๆนี้ ด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงทำให้ Command & Conquer Red Alert 2 กลายมาเป็นเกม RTS ยอดฮิตประจำบ้านเราทันที โดยจุดเด่นของเกมนี้คือการวางแผนกลยุทธ์ในการรบแบบทหารจริงๆ มีการบุกทางบก ทางน้ำและทางอากาศมียูนิตทั้งคนและยานภาหนะ แต่ละอย่างก็จะมีจุดได้เปรียบเสียเปรียบแตกต่างกันออกไป อีกทั้งยังมีอาวุธพิเศษประจำประเทศที่เลือกเล่นคล้ายๆกับเรื่องจริงบนโลกสามารถนำทหารเข้าไปซุ่มบนตึกได้ เอาสปายไปสืบข้อมูลในฐานศัตรูได้ เรียกได้ว่าแทบทุกอย่างในเกมนี้ล้วนทำได้บนโลกแห่งความเป็นจริง อีกทั้งระบบ Multiplay ยังสนุกตื่นเต้น และประทับใจผู้เล่นในยุคนั้นเป็นอย่างมาก จึงไม่แปลกเลยที่เกมนี้จะฝังลึกในใจเด็กยุคนั้นและเป็นเกม RTS อันดับ 1 ในใจคนไทยทุกคน

17. Battle Realms

หนึ่งในเกมแนว RTS ในยุคนั้นที่ได้รับความนิยมอย่างมากในบ้านเรา โดยตัวเกมจะเป็นเกมแนวสร้างฐาน ผลิตกำลังพล อัพเกรดป้อม และบุกโจมตีอีกฝ่ายซึ่งเกมนี้จะมีธีมออกไปในทางยุคญี่ปุ่นโบราณ มีดาบ ธนู หอก เป็นอาวุธ มีซามูไร โรนิน เป็นตัวละครหลัก แต่ก็ยังมีเผ่าอื่นๆให้เลือกเล่นด้วย เช่น ปีศาจหรือคนเถื่อน ลักษณะการสู้กันก็จะออกแนวจอมยุทธ์หน่อยๆ มีการฟันแทงหลบหลีก ท่วงท่าของตัวละครนี่เรียกได้ว่าครบครัน แถมตัวละครบางตัวยังมีสกิลให้กดใช้ ซึ่งก็ออกแนวกำลังภายในอะไรทำนองนั้น แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้เกม Battle Realms แตกต่างจากเกม RTS เกมอื่นๆ ก็คือเมื่อหลังจบการต่อสู้มักจะมีฉากการตายที่โหดเอาเรื่อง เช่น โดนฟันคอขาด โดนระเบิดตัวแตกกระจุยกระตาย แขนขากระเด็นออกจากร่าง ซึ่งมันเป็นอะไรที่ค่อนข้างโหดมากในสายตาของเด็กวัยรุ่นยุคนั้น แต่ก็คงเป็นเพราะเหตุนี้ที่ทำให้เกมนี้ฮิตติดชาร์ตเกมเด็ดประจำร้านเกมในไทย

ผู้เขียน : Youryu

Now Loading

ชอบเพลง Metal | บันเทิงกับการถ่ายรูป | ของโปรดคือเนื้อย่าง | เล่นเกมบ้างบางเวลา
Back to top button

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save