ในที่สุดหนึ่งในเกมที่เฝ้ารอคอยกันมาอย่างยาวนานก็ถูกปล่อยออกมาให้เราได้เล่นกันเสียทีสำหรับ Dead Island 2 เกมที่มีการเดินทางที่แสนยาวนานกว่าที่เราจะได้เล่นกัน ตัวเกมในภาคนี้หลังจากที่มีประเด็นกันมายาวนานในที่สุดได้ทางทีม Dambuster Studios มาพัฒนา และถูกจัดจำหน่ายโดย Deep Silver หัวเรือใหญ่จากภาคแรก ต้องยอมรับว่าในภาคนี้มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิมไปให้เราได้เรียนรู้และเพิ่มความสนุกเข้าไปด้วยลูกเล่นแบบใหม่ ว่าแต่จะมีอะไรบ้างที่น่าสนใจหลังจากที่เราได้สัมผัสกันไปหาคำตอบพร้อมกันได้เลย
เนื้อเรื่องห่างจากภาคแรก 17 ปี
เรื่องราวที่เกิดขึ้นภายใน Dead Island 2 เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังจากภาคแรก 17 ปีอ้างอิงจากข้อมูลที่มีการเปิดเผยออกมาจากทีมงาน หากใครที่ได้เล่นในภาคแรกมาก่อนแล้วจะพบว่าสเกลความวุ่นวายจะอยู่ในระดับของเกาะหนึ่งเท่านั้น อย่างไรก็ตามในภาคนี้มีการเปลี่ยนแปลงสเกลดังกล่าวจากเกาะกลายมาเป็นเมืองที่ถูกเรียกว่า Hell-A หรือหากจะพูดให้ชัดก็คือเมืองลอสแอนเจลิสนั่นเอง ฉะนั้นความกว้างและอิสระในการสำรวจพื้นที่ย่อมเพิ่มขึ้นจากเดิมพอสมควร และหากใครที่ได้รับชมตัวอย่างเกมไปแล้วจะพบว่าภายในเกมภาคใหม่มาพร้อมกับการนำเสนอตัวละครเก่าที่มาจากภาคก่อนอย่าง Sam B มาด้วย และจากข้อมูลเบื้องต้นที่เรารับทราบดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้เจอเหตุกาณ์นี้เป็นครั้งแรก ฉะนั้นพอจะบอกได้ว่าความวุ่นวายที่เกิดขึ้นภายในภาคนี้ น่าจะเป็นสิ่งที่ประชาชนไม่คุ้นชินกันมาก่อน
ตัวละครให้เลือกเล่นกว่า 6 ตัวละคร
แม้ว่าเราจะได้กล่าวถึงตัวละครจากภาคก่อนอย่าง Sam B ว่าเขาได้กลับมาในภาคนี้ แต่ตัวละครที่เราสามารถเล่นได้จะไม่ได้มีเขารวมอยู่ด้วย แต่ตัวละครที่เราจะได้เล่นก็ยังคงเอาไว้ซึ่งความหลากหลายกว่าภาคแรกที่มีให้เลือกเพียงแค่ 4 ตัวละคร เนื่องจากภาคใหม่มีให้เลือกมากถึง 6 ตัวละคร ประกอบไปด้วย Jacob, Amy, Ryan, Dani, Carla และ Bruno แต่ละตัวละครจะมาพร้อมกับจุดเด่นและสกิลความสามารถที่แตกต่างกันไป ความคล่องตัว และท่าทางการต่อสู้จะมีความเป็นเอกลักษณ์ในแต่ละตัวละคร อย่างไรก็ตามหากเราเลือกตัวละครใดไปแล้วเราจะต้องอยู่กับตัวละครนั้นไปตลอด ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนตัวละครได้อีกต่อไป
ระบบการต่อสู้ที่ไม่เปลี่ยนไปนัก
แม้ว่า Dead Island 2 จะเป็นเกมที่มีการพัฒนามานานพอสมควรด้วยเหตุผลต่าง ๆ มากมาย แต่ต้องยอมรับว่าระบบการต่อสู้อาจจะไม่ได้มาพร้อมกับจุดที่แตกต่างไปจากเดิมจนเราสามารถบอกได้ว่า มันเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจมากนัก โดยรวมระบบการต่อสู้ไม่ได้นำเสนอความหลากหลายที่มากพอในแง่ของการออกท่าทาง เรายังคงสามารถที่จะเดินเข้าไปหวดกับซอมบี้โดยตรงได้ เนื่องจากความยากของตัวเกมจะยากขึ้นตามเลเวลของตัวละครและพื้นที่ที่เราเข้าไปสำรวจ แต่นั่นก็นับว่าเป็นความท้าทายแบบหนึ่งเช่นกัน หากใครที่เคยเล่นมาแล้วในภาคแรกอาจจะไม่ได้มีปัญหามากนัก แต่สำหรับผู้เล่นใหม่ถือว่ามีความเหมาะสมในระบบการต่อสู้ที่ไม่ยากและง่ายจนเกินไป ความสนุกอาจจะลดลงไปได้เมื่อเราเริ่มที่จะหลบการโจมตีที่เข้ามาเป็นและสวนกลับไป ซึ่งเป็นทั้งข้อดีและข้อเสียในเวลาเดียวกัน
นอกจากนี้ยังมีระบบธาตุที่ถูกยกมาภายในเกมภาคต่อเช่นกัน ซึ่งการจะทำให้เกิดสถานะธาตุต่าง ๆ ได้เราสามารถที่จะทำได้เองจากการใช้งานอาวุธธาตุของเราไปเล่นงานศัตรูหรือจะใช้งานฉากภายในเกมมาเป็นตัวกลางเพื่อที่จะทำให้เราสามารถเล่นงานต่อไปได้ ที่เรามักจะเห็นได้ภายในเกมจะประกอบไปด้วยน้ำ ไฟ และสายฟ้าหากเราเลือกประเภทอาวุธของเราให้เหมาะสมก็สามารถที่จะเล่นงานศัตรูได้ภายในการโจมตีแค่ครั้งเดียว
อาวุธที่แสนคุ้นเคย
ด้วยความที่เป็นเกมแนวหวดซอมบี้ฉะนั้นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้คืออาวุธที่ภายในเกมที่จะมีให้เราเก็บระหว่างทางรวมไปถึงการสร้างอาวุธขึ้นมาใช้งานเพื่อที่จะได้ตรงกับความต้องการของเรา ประเภทของอาวุธภายในเกมจะถูกแบ่งออกเป็นทั้งหมด 4 แบบคือ Headhunter, Frenzy, Maiming และ Bulldozer จุดเด่นแตกต่างกันไปอย่างเรื่องของการทุบ ฟัน หรือการปาแต่ละแบบเราสามารถที่จะใช้งานได้กับทุกตัวละคร แต่แบบไหนจะเหมาะสมกับตัวละครที่เราเล่นมากที่สุด ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และการทดสอบตอนที่เล่นจริงแล้วเท่านั้น ที่สำคัญทุก ๆ การต่อสู้ด้วยอาวุธจะมีโอกาสที่จะเกิดคริติคอลฮิตด้วย หากเราใช้งานอาวุธแต่ละชิ้นจนสภาพความทนทานหมดแล้วจะไม่สามารถใช้งานได้อีก แต่เราสามารถที่จะนำไปซ่อมได้ผ่านโต๊ะคราฟภายในเกมได้เช่นกัน
ขณะเดียวกันเราสามารถที่จะสร้างอาวุธขึ้นมาได้จากการหาโต๊ะคราฟภายในเกม โดยที่เราจะต้องหาวัสดุสำหรับการคราฟมาใช้งาน แน่นอนว่าสามารถที่จะหาได้จากการเดินสำรวจภายในพื้นที่ต่าง ๆ หรืออีกทางคือการย่อยอาวุธที่ไม่ใช้งานหรือหมดสภาพความทนทานแล้วก็สามารถที่จะใช้งานได้เช่นเดียวกัน เราไม่สามารถที่จะคราฟอาวุธได้จากหน้าเมนูเหมือนกับเกมอื่น ๆ แต่เราจำเป็นที่จะต้องหาโต๊ะคราฟภายในเกมเท่านั้น อย่างไรก็ตามสำหรับการย่อยอาวุธสามารถทำได้จากหน้าเมนูของเราโดยตรงได้ เราสามารถที่จะเพิ่มลูกเล่นในส่วนของการเพิ่มธาตุหรือความสามารถพิเศษได้จากการคราฟอาวุธเท่านั้น หรือหากโชคดีเราอาจจะเก็บได้ตามทางระหว่างเล่น
ระบบสกิลการ์ด
สิ่งที่ถูกเพิ่มเข้ามาภายใน Dead Island 2 และเป็นจุดเด่นที่น่าสนใจคือระบบสกิลการ์ดที่เปรียบเสมือนกับสกิลที่เราจะปลดได้ตลอดการเล่น เมื่อเลเวลของตัวละครเราเพิ่มขึ้น ช่องสำหรับการใส่สกิลจะมีทั้งหมด 15 ช่องไม่รวมช่องพิเศษสองช่องที่เป็นสกิลพื้นฐานที่เราจะได้มาจากตัวละครที่เราเลือกเล่น การ์ดแต่ละใบมีความสามารถที่แตกต่างกันไปอีกทั้งไม่ใช่ว่าทุกใบจะสามารถใช้งานได้ตลอดเวลาเหมือนกับสกิลติดตัว แต่จะถูกเรียกใช้งานเมื่อทำเงื่อนไขครบ แต่จะมีการแบ่งแยกย่อยในแต่ละสกิลเอาไว้ ถือว่าเป็นระบบที่น่าสนใจและช่วยให้เราสามารถที่จะเล่นเกมได้ง่ายยิ่งขึ้นกว่าเดิมพอสมควร ข้อแนะนำที่พอจะบอกกันได้คือในช่วงแรกเราอาจจะไม่มีปัญหากับการใส่การ์ดที่ใช้งานมากนัก เนื่องจากช่องยังใส่ยังมีมากพอ แต่เมื่อผ่านไปสักระยะที่ปลดสกิลมากยิ่งขึ้น เราควรที่จะเลือกการ์ดที่เหมาะสมกับการเล่นของเราให้มากที่สุดเพื่อที่จะส่งเสริมการเล่น และความสามารถตัวละครนั่นเอง
ซอมบี้ไม่ง่ายอย่างที่คิด
สำหรับซอมบี้ภายในเกมนับว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจและมีความเป็นเอกลักษณ์ในแต่ละตัวที่ชัดเจน เพียงแค่การเริ่มเกมไปได้ไม่นานเราสามารถที่จะพบเจอซอมบี้ที่แตกต่างกันได้มากถึง 3 ประเภทและรูปแบบการโจมตีมีความแตกต่างกันทั้งหมด ทำให้เราต้องปรับตัวในการเดินทางเข้าสู่พื้นที่ใหม่อยู่เสมอ และใช่ว่าการเจอซอมบี้แบบเดิมเราจะเจอท่าทางการโจมตีที่เหมือนเดิมทุกครั้ง เพราะบางทีเราอาจจะพบว่าการเคลื่อนไหวของมันแตกต่างออกไป ซึ่งในส่วนนี้เราสามารถเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากข้อมูลภายในเกมว่าเราปลดข้อมูลท่าทางการโจมตีของซอมบี้เหล่านี้ครบแล้วหรือไม่ นับว่าเป็นอีกหนึ่งความสนุกที่จะอยู่กับเราไปตลอดทั้งเกม ข้อแนะนำที่พอจะบอกกันได้คือหากเราเจอซอมบี้ที่มีความน่ารำคาญและเคลื่อนไหวได้เร็วเราควรที่จะเลือกอาวุธจำพวกที่เป็นการฟัน และสับไปที่ขาของซอมบี้เหล่านี้เพื่อที่จะหยุดการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วก่อนจะดีที่สุด และซอมบี้หลาย ๆ ตัวมีความสามารถในการหลบการโจมตีของเราได้อีกด้วยไม่ได้เดินเข้ามาให้เราหวดได้เท่านั้น
มาพร้อมกับโหมดผู้เล่นหลายคน
เป็นอีกหนึ่งจุดที่ขาดไม่ได้สำหรับการเล่นแบบผู้เล่นหลายคนหรือการ Co-op ภายในเกมเราสามารถที่จะเล่นได้เช่นเดียวกันกับภาคก่อน แต่มีข้อแม้ว่าต้องผ่านบทนำที่ใช้เวลาไม่นานมากนักมาเสียก่อนถึงจะสามารถสร้างห้องเพื่อสนุกกับเพื่อนของเราได้ โดยที่ความก้าวหน้าของเนื้อเรื่องจะเพิ่มขึ้นไปพร้อม ๆ กันสำหรับโหมดดังกล่าว เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในกรณีที่ใครอยากจะเพิ่มความสนุกด้วยการเล่นไปพร้อม ๆ กับเพื่อนได้พอสมควร ขณะเดียวกันยังมีภารกิจเสริมให้เราได้ทำตลอดทั้งการเล่น
งานภาพไม่ว้าวอย่างที่คิด
Dead Island 2 เป็นเกมที่มีการพัฒนามาอย่างยาวนานและหากนับจากภาคแรกมีความห่างกันอยู่ 12 ปี อย่างไรก็ตามกราฟิกที่เราได้เห็นภายในเกมด้วยขุมพลัง Unreal Engine 4 ส่วนตัวแล้วไม่ได้มีความล้ำสมัยมากเท่าที่ควร อาจจะเป็นเพราะทางทีมงานต้องการที่จะคงงานภาพให้ได้แบบเดิมมากที่สุด ทำให้เราไม่ได้เห็นงานภาพที่แตกต่างไปจากเดิมเท่าที่ควร ส่วนตัวมองว่าเป็นกราฟิกที่ถูกทำให้สวยและคมยิ่งขึ้น แต่ก็ยังมีจุดบกพร่องในเรื่องของการแสดงสีหน้าตัวละครที่ทำได้ไม่ดีนัก และดูเหมือนว่าจะดูแย่ลงกว่าเดิมในบางช่วงของการเล่นเสียด้วยหากเทียบกับภาคก่อน แต่ในส่วนของบรรยากาศถือว่ามีการยกระดับมากขึ้นกว่าเดิม ความฟุ้งของไฟและหมอกไม่มีเหมือนกับภาคก่อนอีกต่อไป เป็นงานภาพที่ดูแล้วสบายตายิ่งกว่าเดิม (เล่นผ่าน PlayStation 5)
โดยสรุปแล้ว Dead Island 2 เป็นหนึ่งในเกมที่หากใครเป็นแฟนเกมที่รอคอยมาอย่างยาวนานควรจะต้องหามาเล่นให้ได้ ขณะที่หากใครไม่เคยเล่นเกมตระกูลนี้มาก่อนและหาเกมแนวเอาชีวิตรอดจากซอมบี้แต่ได้สวนกลับอยู่ตลอดทั้งเกม นับว่าเป็นอีกหนึ่งผลงานที่สามารถหามาเล่นได้แบบไม่เสียดายมากนัก ตัวเกมพร้อมเปิดให้เล่นตั้งแต่วันที่ 21 เมษายนเป็นต้นไปในหลากหลายแพลตฟอร์มไม่ว่าจะเป็น PC, PlayStation 5, PlayStation 4, Xbox One, Xbox Series X และ Xbox Series S
จุดเด่น
– เนื้อเรื่องของเกมที่ยังคงเอาไว้ซึ่งการนำเสนอและน่าสนใจ
– ระบบการต่อสู้ที่เพิ่มความหลากหลายเข้ามาและลงตัวยิ่งขึ้น
– สกิลการ์ดที่ช่วยทำให้ผู้เล่นสามารถสนุกไปกับการค้นหาส่วนผสมที่เหมาะกับการเล่น
– ซอมบี้ที่มีเอกลักษณ์และมีความยากง่ายในตัว
– ระบบอาวุธและธาตุที่ใช้งานได้จริงและส่งผลกระทบกับการเล่น
– พื้นที่การสำรวจที่เพิ่มขึ้นจากภาคก่อน
จุดสังเกต
– กราฟิกที่อาจจะดูไม่สมกับยุคสมัยปัจจุบันมากนัก
– การแสดงสีหน้าของตัวละครที่ดูแข็งพอสมควร
ผู้เขียน : Artherlus
