สัมภาษณ์พิเศษผู้พัฒนาเกม Theatrhythm Final Bar Line
เปิดเบื้องหลังการสร้างเกม ความประทับใจจากภาคแรกถึงภาคใหม่ล่าสุด
เปิดวางจำหน่ายกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับสำหรับ Theatrhythm Final Bar Line เกมแอ็กชันแนวดนตรีภาคใหม่ล่าสุดที่จะรวบรวมบทเพลงจากซีรีส์ Final Fantasy หลากหลายภาคเข้ามาดัดแปลงให้กลายเป็นการผจญภัยครั้งสำคัญของเหล่านักรบแห่งแสง ถ่ายทอดผ่านกราฟิกแบบ SD สุดน่ารัก โดยบทความนี้่่ ก็ไม่พลาดได้รับโอกาสดีๆ จากผู้จัดจำหน่าย BANDAI NAMCO ในการสัมภาษณ์คุณ Ichiro Hazama โปรดิวเซอร์ของเกม และคุณ Masanobu Suzui ผู้กำกับร่วม ถึงเบื้องหลังการพัฒนาเกมนี้ด้วย แต่จะมีอะไรน่าสนใจบ้างนั้นขอเชิญติดตามกันข้างล่างนี้กันครับ
คุณ Ichiro Hazama (ซ้าย) และคุณ Masanobu Suzui (ขวา)
Q1. ก่อนอื่นเลย ทีมงานรู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้กลับมาพัฒนาเกม Theatrhythm อีกครั้งนับจากในปี 2014?
A: แรงบันดาลใจที่สำคัญที่สุดของเราคือเสียงจากแฟนๆ ที่ให้การสนับสนุนและอยากเล่นเกม Theatrhythm บนเครื่องเล่นเกมคอนโซลอีกครับ ซึ่งถึงแม้ว่าระยะเวลาจะผ่านมาถึงกว่า 8 ปีแล้วนับตั้งแต่การวางจำหน่ายเกมภาค Curtain Call ในปี 2014 แต่เราก็ได้ยินว่าผู้เล่นบางส่วนยังคงตั้งห้องปาร์ตี้เล่นเกมนี้กันอยู่ นอกเหนือจากนั้นแล้วตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้นก็มีเกม Final Fantasy ภาคใหม่ๆ ออกมาวางจำหน่ายมากมาย ทำให้มีเพลงเพื่อนำมาใช้งานในเกมนี้ได้มากยิ่งขึ้นด้วยครับ
Q2. แล้วมีฟีเจอร์ใหม่ๆ อะไรบ้างที่อยากจะให้แฟนๆ ได้ลองกันครับ?
A: Theatrhythm Final Bar Line มาพร้อมกับเพลงใหม่จำนวนมากเลยครับ โดยจะมีตัวเลือกเพิ่มเติมอย่าง Today’s Recommendation ที่จะแนะนำเพลงประจำวันให้ได้เล่นกัน หรือ Random Selection สำหรับใครที่อยากเซอร์ไพรส์กับเพลงต่างๆ อีกทั้งในการเล่นแต่ละรอบก็จะมีการแนะนำเพลงที่ผู้เล่นสนใจเพิ่มเติมเมื่อเล่นจบแต่ละฉากด้วย นอกจากนี้ก็จะมีฟีเจอร์ที่ห้ผู้เล่นกดเปิด – ปิดไอคอนกำหนดเวลาการเคาะจังหวะ และตัวเลือกเปิดปิดการแสดงผลปุ่มบนหน้าจอ
ที่สำคัญที่สุดเกมยังมีการเพิ่มองค์ประกอบรูปแบบ RPG เข้าไปด้วย ยกตัวอย่างเช่นมอนสเตอร์หรือศัตรูบางชนิดจะมีจุดอ่อนที่แพ้ทางธาตุหรือสเตตัส โดยตัวละครที่เราเลือกใช้ในปาร์ตี้ก็จะมีบัฟพิเศษสำหรับการเล่นเพลงที่เป็น Favorite Track ซึ่งจะทำคะแนนได้สูงขึ้นหรือมีความสามารถเพิ่มเติมเมื่อนำไปใช้งาน ดังนั้นทีมงานจึงหวังเป็นอย่างยิ่งมากเลยครับว่าสิ่งที่เพิ่มเข้ามาเหล่านี้จะทำให้ผู้เล่นรู้สึกสนุกไปกับเกมควบคู่ไปกับเพลงใหม่ๆ
Q3. ในอนาคต Theatrhythm Final Bar Line จะได้รับการสนับสนุนคอนเทนต์เพิ่มเติมหลังวางจำหน่ายด้วยไหมครับ และถ้ามีก็จะเป็นรูปแบบไหนบ้างครับ?
A: พวกเราได้ระบุแผนการปล่อยคอนเทนต์เสริมในรูปแบบ DLC เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีการวางจำหน่ายชุดเพลงใหม่ๆ ในทุกๆ 2 – 3 สัปดาห์ตลอดทั้งปี 2023 ก็เลยรู้สึกมั่นใจครับว่าแฟนๆ จะมีคอนเทนต์สนุกๆ ให้ได้เล่นกันตลอดยาวๆ เลยครับ
Q4. สังเกตได้ว่า นี่คือครั้งแรกที่ Theatrhythm จะได้มามอบความสนุกของมนต์เสียงเพลงแห่ง Final Fantasy บนเครื่องเล่นเกมคอนโซล ซึ่งมีความแตกต่างจาก Nintendo 3DS ในแง่การควบคุมและหลายๆ อย่าง อยากทราบว่าทีมงานมีความท้าทายอย่างไรบ้างในการปรับสเกลการทำงานให้ยิ่งใหญ่ขึ้น
A: เกมในสองภาคแรกได้ใช้ฟีเจอร์สำคัญของ Nintendo 3DS เป็นหลักนั่นก็คือการควบคุมด้วยหน้าจอทัชสกรีน โดยในภาค Curtain Call ก็มีการเพิ่มการสนับสนุนการควบคุมด้วยปุ่มเป็นครั้งแรก และสำหรับภาค Final Bar Line นี้ เพื่อให้ตัวเกมเป็นประสบการณ์เกมที่ดีที่สุด จึงได้เพิ่มระบบการเล่นให้มีความหลากหลายขึ้น เช่นคำสั่งการกดปุ่มพร้อมกัน โดยได้มีการใช้เวลาการทำงานเพื่อปรับบาลานซ์หรือแผนผังการกดปุ่มในโหมดความยากแต่ละระดับ เช่นเดียวกับของรางวัลที่ผู้เล่นได้รับอยู่พักใหญ่เลยครับ พวกเราค่อนข้างมั่นใจว่าตัวเกมมีความสมดุลและเหมาะสมกับผู้เล่นในทุกระดับตั้งแต่เริ่มต้นถึงมือโปร ทุกคนจะรู้สึกสนุกกับเกมได้
ที่สำคัญเลย ทีมงานมีการจับตาดูการพัฒนาอย่างใกล้ชิดเพื่อให้ Theatrhythm Final Bar Line เป็นเกมที่ผ่อนคลายและมีความสนุกในเวลาเดียวกัน โดย Final Fantasy เองก็ดำเนินเนื้อหามาเป็นเวลากว่า 35 ปีและมีฐานแฟนคลับที่ใหญ่โตมาก และแม้เราจะทราบดีว่าเป็นเวลากว่า 10 ปีนับตั้งแต่การวางจำหน่ายเกมภาคแรก แต่ถึงอย่างไรก็เป็นสิ่งที่เรายึดมั่นมาตลอดในการพัฒนาเกมเพื่อทำให้แฟนๆ ทุกวัยได้สนุกและพึงพอใจกับผลงานนี้มากที่สุด
Q5. ท้ายที่สุด อยากทราบข้อมูลเกี่ยวกับโหมด Local Multiplayer ที่เพิ่มเข้ามาครับว่ามีความพิเศษอย่างไรบ้าง
A: Theatrhythm Final Bar Line จะมีการรองรับระบบ Multiplayer Battle พร้อมกันสูงสุด 4 คน ซึ่งจะให้ผู้เล่นได้สนุกกับการประชันในการต่อสู้แห่งเสียงเพลงที่มีความแคชวลและเข้าถึงง่ายมากกว่าภาค Curtain Call โดยได้มีการอออกแบบมาเพื่อให้ผู้เล่นทุกคนสามารถสนุกกันได้ แม้ว่าจะแพ้หรือชนะก็ตาม ยกตัวอย่างเช่นระบบการกดปุ่มที่จะเพิ่มเกจ Burst Gauge ให้มากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อต่อสู้กับศัตรูในฉาก พอเกจเต็มก็จะใช้ท่าพิเศษเพื่อเพิ่มคะแนนได้ และท่า Burst นี้ก็จะยังไม่สามารถใช้ในช่วงแรกของการต่อสู้ได้ แต่เมื่อเล่นไปสักพักก็จะเริ่มสาดพลังใส่กัน ทำให้เกิดการแข่งขันที่ปั่นป่วนมากขึ้น
สำหรับในส่วนของโหมดออนไลน์ก็จะมีการปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่นการพูดคุยกับผู้เล่นอื่นผ่านช่องข้อความก่อนหรือหลังต่อสู้ การเพิ่มตัวเลือกในการเล่นฉากเดิมกับผู้เล่นในล็อบบี้ซ้ำเพื่อเพิ่มโอกาสที่จะได้รับการ์ดใหม่ๆ ซึ่งพวกเราก็หวังว่าแฟนๆ จะสนุกกับการทดสอบฝีมือกับเหล่าผู้เล่น Theatrhythm Final Bar Line รอบโลกนะครับ
ท้ายที่สุดนี้ อีกหนึ่งสิ่งที่จะทำให้แฟนๆ ชื่นชอบการเล่นโหมดการเล่นหลายคนก็คือ ผู้เล่นจะสามารถแลกเปลี่ยนการ์ดโปรไฟล์ได้ และบนการ์ดจะมี Summonstone ที่อาจจะเพิ่มเอฟเฟกต์ในการต่อสู้ให้กับเราด้วย โดยบัฟเหล่านี้จะมอบให้กับผู้เล่นทั้งหมดในล็อบบี้เช่นกันครับ
เรียกได้ว่า Theatrhythm Final Bar Line จะเป็นผลงานที่ทำให้แฟนๆ ต้องฟินกันอย่างแน่นอนโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแฟนพันธุ์แท้ของ Final Fantasy ที่่ห่างหายจากภาค Theatrhythm กันมานาน แถมการกลับมาครั้งนี้ยังมีการเพิ่มฟีเจอร์เด็ดๆ ใหม่ๆ มากมายเลยครับ
อีกด้านหนึ่ง Theatrhythm Final Bar Line วางจำหน่ายแล้วบน PlayStation 4 และ Nintendo Switch เป็นเกมแนวแอ็กชั่น – ดนตรี ที่เน้นการเคาะจังหวะ โดยผู้เล่นจะต้องจัดทีมเป็นเหล่าฮีโร่จาก Final Fantasy ภาคต่างๆ จำนวน 4 คนเพื่อต่อสู้กับศัตรูในแต่ละฉากผ่านเกมเพลย์การเคาะจังหวะ รวมบทเพลงถึง 385 เพลงจากเกม Final Fantasy ทั้งหมด 46 ภาคเช่นเดียวกับเกมภาคหลัก – ภาครีเมค และเพลงพิเศษ ถือเป็นของขวัญสำหรับคนรักเกม Final Fantasy ที่น่ารักมากๆ เพราะไม่ว่าจะซื้อมาเล่นเองหรือซื้อไปฝากเพื่อฉลอง 35 ปีก็คุ้มค่าแน่นอนครับ