5 เหตุผลที่ทำให้คุณเลิกเล่นเกม ๆ นึงไม่ได้สักที
ยังมีคนชวนเล่นอยู่ / ไม่มีเกมใหม่น่าสนใจ / เติมเงินเยอะไป / เสียดายเวลา
ในการเล่นเกมออนไลน์มาอย่างยาวนาน เพื่อน ๆ หลายคนคงจะเคยผ่านการเล่นเกมมาหลายรูปแบบมาก และก็คงจะมีทั้งเกมที่ชอบและไม่ชอบกันใช่ไหมล่ะครับ แต่ที่น่าแปลกก็คือบางเกมที่ชอบนั้นอาจจะเล่นได้ไม่นานเท่าที่ควร ส่วนเกมที่เราเฉย ๆ กลับเข้าไปเล่นได้ทุกวัน ถามว่าเบื่อไหมก็คงจะมีบ้าง แต่ก็เลิกเล่นมันไม่ได้สักที ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย รวมถึงอารมณ์ของตัวเราเองในช่วงนั้นด้วยครับ ไปดูกันดีกว่าว่ามีเหตุผลอะไรบ้างที่ทำให้คุณเลิกเล่นเกมนั้น ๆ ไม่ได้สักทีแม้ว่าจะอยากเลิกเล่นมันก็ตาม
1. ไม่มีเกมใหม่ ๆ ที่น่าเล่นสำหรับคุณ
แม่ว่าวงการเกมทั่วโลกจะมีการดำเนินไปอย่างรวดเร็ว และมีเกมออกใหม่มาให้เล่นไม่เว้นแต่ละวันในหลายแพลตฟอร์ม ทั้ง PC, Console หรือเกมมือถือ ก็ล้วนแข่งขันและผลิตเกมใหม่ออกมาทั้งนั้น แต่ในใจเรานั้นกลับรู้สึกว่าเกมต่าง ๆ เหล่านี้ไม่ถูกใจเราเสียเลย ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตาม ทั้งเกมเพลย์ ตัวละคร อาชีพ กราฟฟิก เนื้อเรื่อง หรือสุดท้ายอาจจะเป็นแค่เรื่องเกมไม่ตรงจริตเฉย ๆ เท่านั้น ทำให้เราเลือกเล่นเกมเก่าที่เคยเป็นเซฟโซนของเราต่อไป ถ้านิสัยการเล่นเกมมันเปลี่ยนไม่ได้ แล้วยังไม่มีเกมใหม่ที่น่าสนใจออกมาให้เล่น สุดท้ายเราก็จะเข้าไปเล่นเกมเดิมอยู่ดีแม้จะบ่นว่าไม่มีอะไรทำหรือเบื่อก็ตาม
2. เสียดายเงินและเวลาที่เสียไป
สำหรับเกมที่มีการปั้นทีมหรือบิ๊วตัวละครมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะเกมมือถือหรือเกมสาย MMORPG ที่ต้องใช้ระยะเวลาในการฟาร์มนานมาก เพราะถูกจำกัดด้วยเลเวล ดันเจี้ยนประจำวัน และ Stamina ที่จำกัดการเล่นของเราให้เทพเร็วมากไม่ได้ ยิ่งถ้าฟาร์มแล้วยังรู้สึกว่าสู้คนอื่นไม่หรือเก่งไม่สู้บอส ก็ยิ่งทำให้เราอยากจะเติมเงินเพื่อให้ตัวเองเทพได้เร็วขึ้นหรือเทพให้มากกว่าเดิม นั่นทำให้เราเกิดความเสียดายขึ้นมาทุกครั้งเมื่อคิดจะเลิกเล่น บางเกมเล่นมาหลายปี บางเกมเติมเงินเป็นหมื่นเป็นแสน เล่นมาจนขนาดนี้ถ้าจะให้เลิกก็คงทำใจไม่ค่อยได้ สุดท้ายเราก็ยังกลับเข้าไปเล่นเหมือนเดิม
3. ความเคยชินทำให้เข้าเกมต่อ
บางคนมีชีวิตประจำวันที่วางตารางไว้เป็นเวลา เช่น ตื่นเช้ามาก็ต้องไปเรียนหรือไม่ก็ไปทำงาน เดินทางกลับบ้านมาก็กินข้าว อาบน้ำ แล้วก็เล่นเกมก่อนที่จะเข้านอน เป็นต้น การวางตารางชีวิตไว้อย่างชัดเจนจะทำให้เกิดความเคยชินขึ้น และตารางเหล่านี้ก็จะบังคับให้ตัวเราทำไปเรื่อย ๆ ด้วยความเคยชิน เมื่อถึงเวลาเราก็จะมานั่งหน้าคอมหรือเปิดเกมเล่นเหมือนกับทุกวันแล้วเข้าเกมเดิม ๆ ถ้าไม่ได้ตั้งใจว่าวันนี้ฉันจะหาเกมใหม่เล่น หรือฉันจะทำอย่างอื่นในเวลานี้ สุดท้ายเราก็จะกลับมานั่งเล่นเกมเดิมอยู่ดี ทำอะไรแบบเดิม ๆ ลงดันเจี้ยนเดิม สเต็ปการเล่นเรียงตามลำดับ 1 – 2 – 3 เหมือนที่เคยทำทุกวันอย่างกับ Daily Quest พอหมดเวลาก็เข้านอน วันใหม่ก็วนลูปใหม่ไปเรื่อย ๆ ครับ
4. มีบางอย่างค้างคาภายในเกม
เวลาเล่นเกมเราก็มักจะตั้งเป้าหมายก่อนเล่นหรือระหว่างเล่นว่าเราจะปั้นตัวละครตัวนี้ให้ไปถึงจุดไหน หรืออยากจะติดตามเนื้อเรื่องให้เคลียร์ ๆ หรือผ่านดันเจี้ยน ผ่านบอสสูงสุดในเกมให้ได้ซะก่อนถึงจะเรียกว่า End Game อย่างแท้จริง ซึ่งการจะทำแบบนั้นได้อาจจะต้องใช้เวลานานจริง ๆ เกมออนไลน์หรือเกมมือถือใหญ่ ๆ หลายเกมกว่าจะถึงตรงนั้นได้อาจต้องใช้เวลาเป็นปี ๆ ถึงจะได้เห็นจุดสูงสุดของเกม แต่ความเบื่อและความอยากเลิกเล่นอาจจะมีเข้ามาระหว่างเล่นอยู่เรื่อย ๆ อาจจะเป็นเพราะเราใจร้อน รอไม่ไหว ไม่มีอะไรน่าสนใจแล้ว เดาปลายทางออกก็เลยอยากจะเลิกเล่นเกมนี้ไป แต่ด้วยเป้าหมายที่ตั้งใจว่าก็ทำให้เราเข้าเกมไปเล่นต่อเพื่อเคลียร์สิ่งที่ค้างคาใจให้สำเร็จครับ
5. ยังมีคนชวนให้เข้าไปเล่นอยู่
เกมออนไลน์หลายเกมถูกออกแบบมาให้เล่นกันเป็นทีม หรือเล่นคนเดียวจะไม่ค่อยสนุกเท่าเล่นกับเพื่อน และไม่ว่าคุณจะมีเพื่อนในเกมหรือเพื่อนในชีวิตจริงก็ตาม การถูกชวนเข้าไปเล่นจะทำให้คุณรู้สึกว่ายังเล่นเกมนี้ได้อยู่ ถึงแม้ว่าโดยส่วนตัวแล้วจะไม่ชอบเกมนี้เท่าไหร่นัก แต่ถ้าไม่ได้รู้สึกติดลบแล้วมีคนชวนเล่นเรื่อย ๆ ก็ยังพอเล่นได้ แต่กลับกันถ้าให้เล่นเกมนี้ด้วยตัวเองคนเดียวก็คงจะไม่เข้าไปเล่นเพราะไม่ได้ชอบขนาดนั้น มันเป็นเหมือนการเข้าไปเล่นเพื่อเอาสังคม เอาเพื่อน มากกว่าที่จะเล่นเอาความสนุกของเกม แต่เราโฟกัสว่าสนุกเพราะมีเพื่อนเล่นด้วยกันมากกว่า ก็เลยทำให้เลิกเล่นเกมที่รู้สึกเฉย ๆ เหล่านี้ไม่ได้นั่นเองครับ
และนี่คือ “5 เหตุผลที่ทำให้คุณเลิกเล่นเกม ๆ นึงไม่ได้สักที” ตรงกับประสบการณ์ที่เพื่อน ๆ เคยเจอกันมาบ้างหรือเปล่าครับ ถ้าเกิดท่านใดมีเหตุผลอื่นนอกเหนือจาก 5 ข้อนี้ ก็ยังสามารถคอมเมนต์บอกเล่าประสบการณ์ของเพื่อน ๆ ให้พวกเราได้อ่านกันด้วยนะครับ หลายคนหลายแง่มุม สิ่งที่เราเจอมาอาจจะไม่เหมือนกันก็ได้ แต่อย่างไรก็ตามเกมแต่ละเกมล้วนมีข้อดีของมันเองครับ ที่เราไม่เล่นหรือเลิกเล่นไปอาจไม่ใช่เพราะเกมไม่ดี แต่อาจเกิดจากสภาพอารมณ์และความรู้สึกส่วนตัวของเราที่มีต่อเกมมากกว่า ถ้าเป็นไปได้ ใคร ๆ ก็ไม่อยากจะเลิกเล่นเกมที่ชอบหรอกจริงไหมครับ 🙂