[รีวิว] Monster Hunter Stories 2: Wings of Ruin แหวกแนว เข้าถึงง่ายมาพร้อมระบบหัวใจของซีรีส์

สิ่งแรกที่ผู้เขียนประทับใจมาก ๆ เลยก็คือกราฟิกภายในเกมนี้ที่ทำออกมาได้ดีมาก ๆ โดยตัวละครทั้งหมดภายในเกมนี้ถูกออกแบบมาเป็นสไตล์การ์ตูนทั้งสิ้น ทำให้เกมนี้เป็นอีกเกมที่น่าจะถูกใจแฟนเกมวัยเยาว์ อีกทั้งการให้สีสันขององค์ประกอบภายในเกม รวมไปถึงอนิเมชั่นต่าง ๆ ยังทำออกมาได้ดี ลื่นไหล คมชัดสวยงาม

แต่ถ้าจะให้ติเล็กน้อยก็คงหนีปัญหาเดิม ๆ ไม่พ้นคือ กราฟิกที่ยังทับซ้อนกันให้ได้เห็นบ้าง เช่น ผ้าคลุมทะลุดาบที่แขวนอยู่หลังตัวละคร เป็นต้น ซึ่งถือว่าเป็นจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มองข้ามได้เลยครับ

เกมเพลย์การต่อสู้ที่เข้าใจง่าย ใช้เวลาไม่นานก็สนุกได้

Monster Hunter Stories 2: Wings of Ruin เป็นเกม Turn-Based ที่ผู้เล่นจะได้เลือกรูปแบบการโจมตีที่มีอยู่หลากหลายแบบเพื่อต่อสู้กับศัตรู โดยหลัก ๆ แล้วการโจมตีปกติจะแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ ได้แก่ Power , Speed และ Technique ซึ่งการโจมตี 3 รูปแบบนี้จะมีการแพ้ และชนะทางแตกต่างกัน คล้ายกับการเป่ายิงฉุบนั่นเอง ซึ่งมอนสเตอร์แต่ละตัวจะมีรูปแบบการโจมตีที่แตกต่างกัน ซึ่งผู้เล่นจะต้องศึกษาให้ดี เพื่อที่จะได้เลือกรูปแบบการโจมตีได้ถูกต้อง

นอกจากนี้ภายในเกมยังมีรูปแบบของอาวุธที่แตกต่างกันออกไป โดยจะแบ่งเป็น 3 รูปแบบหลัก ๆ คืออาวุธประเภทฟัน, ประเภทเจาะ และประเภททุบ ซึ่งอาวุธแต่ละชนิดก็จะมีประโยชน์แตกต่างกันไป รวมไปถึงการใช้งานในสถานการณ์ที่แตกต่างกัน โดยผู้เล่นจะต้องเลือกใช้อาวุธในการโจมตีให้เหมาะสม มิเช่นนั้นหลาย ๆ ครั้งเราจะไม่สามารถทำดาเมจกับศัตรูได้เลย

นอกจากนี้ยังมีการใช้ระบบสกิลที่จะทำให้ตัวละครโจมตีได้รุนแรงขึ้น อีกทั้งเอฟเฟกต์ของการใช้สกิลก็ต้องบอกว่าตระการตาเป็นอย่างมากครับ

ระบบการขี่มอนสเตอร์ในการต่อสู้ ที่มาพร้อมกับ ระบบ Kinship Skill

ในการต่อสู้กับมอนสเตอร์ในการสำรวจแต่ละครั้ง ผู้เล่นจะได้สะสมเกจความสัมพันธ์กับมอนสเตอร์ในทีม และเมื่อผู้เล่นสะสมเกจถึงที่กำหนด ผู้เล่นจะสามารถขึ้นไปขี่มอนสเตอร์ของตนเองได้ และผู้เล่นสามารถร่วมโจมตีกับมอนสเตอร์ของตนเองได้อีกด้วย

ผู้เล่นสามารถเลือกโจมตีธรรมดาก็ได้เพื่อสะสมเกจให้มีเลเวลสูงขึ้นเพื่อปลดปล่อยสกิลได้รุนแรงขึ้น หรือผู้เล่นเลือกใช้สกิลเลยก็ได้ โดยสกิลดังกล่าวจะเรียกว่า Kinship Skill ที่จะเป็นการประสานพลังการโจมตีของมอนสเตอร์ ทำให้การโจมตีนั้นรุนแรงขึ้นอีกหลายเท่า ซึ่งจะเรียกว่าเป็นการใช้ท่าไม้ตายก็ไม่ผิดนักครับ

ระบบ Kinship Skill ถือว่าเป็นระบบที่น่าสนใจอย่างมากภายในเกม Monster Hunter Stories 2: Wings of Ruin ด้วยเอฟเฟกต์สุดอลังการแล้ว เราจะได้เห็นรูปแบบการประสานงานที่หลากหลายแตกต่างกันออกไปในมอนสเตอร์แต่ละตัว ทำให้ผู้เล่นสนุกกับการค้นหามอนสเตอร์เพื่อมาทดลองใช้ Kinship Skill ครับ

การทำเควส การออกสำรวจ และการคราฟท์ หัวใจของเกมที่ยังคงอยู่

การทำเควส การออกสำรวจตามแผนที่ต่าง ๆ และการคราฟท์อาวุธ รวมไปถึงชุดเกราะ ถือว่าเป็นจุดเด่นของเกมซีรีส์ Monster Hunter ไปแล้ว และแน่นอนว่าเกม Monster Hunter Stories 2: Wings of Ruin ก็ไม่พลาดที่จะนำระบบนี้เข้ามาเป็นส่วนหลักในการเล่นเกมนี้ด้วย โดยผู้เล่นจะสามารถรับเควสต่าง ๆ ได้ที่กระดานเควสในหมู่บ้าน จากนั้นผู้เล่นก็สามารถเข้าไปยังพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อทำเควสได้

และในการออกสำรวจแต่ละครั้งผู้เล่นจะได้เดินทางไปยังพื้นที่ต่าง ๆ โดยแต่ละพื้นที่จะมีมอนสเตอร์ให้ผู้เล่นได้ต่อสู้ที่แตกต่างกันออกไป รวมไปถึงมีวัตถุดิบต่าง ๆ ให้ผู้เล่นได้เก็บสะสมเพื่อนำมาใช้ในการผสมเป็นไอเทมต่าง ๆ รวมไปถึงนำวัตถุดิบต่าง ๆ ที่หาได้จากการกำจัดมอนสเตอร์ และการเก็บตามฉากมาใช้ในการคราฟท์/อัปเกรด ทั้งอาวุธ/ชุดเกราะ ที่จะมีการระบุว่าต้องการวัตถุดิบอะไรบ้าง และใช้เงินเท่าไหร่ในการคราฟท์ ซึ่งถือว่าเป็นการผสมผสานรูปแบบเกมที่ลงตัวเป็นอย่างมาก

ระบบฟักไข่

ระบบที่ผู้เขียนประทับใจอย่างมากคือ ระบบฟักไข่นี่แหล่ะครับ โดยระบบนี้จะเป็นระบบที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นได้รับมอนสเตอร์มาใช้งาน โดยไข่ผู้เล่นจะสามารถหามาได้จากการสำรวจ และนำมาฟักได้ในเมือง โดยมอนสเตอร์ที่ผู้เล่นฟักมาได้ก็จะมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป ซึ่งทุกอย่างนี้เป็นการสุ่มคล้ายกับระบบกาชาภายในเกมมือถือที่เรารู้จักกันดี เพียงแต่เราไม่ต้องเสียเงินซื้อเท่านั้นเอง ซึ่งระบบนี้ถือว่าเป็นระบบที่สร้างสีสันให้กับเกมได้เป็นอย่างดี

สรุปรีวิว

Monster Hunter Stories 2: Wings of Ruin เป็นเกมที่ยังคงหัวใจสำคัญของเกมในซีรีส์ได้เป็นอย่างดี แต่ได้มีการประยุกต์ และเสริมระบบที่ทำให้เป็นมิตรกับผู้เล่นทั่วไปมากขึ้น โดยเฉพาะเหล่าเกมเมอร์วัยเยาว์ด้วยภาพที่สดใส ระบบเกมที่เข้าใจง่าย ที่ทำให้เล่นได้ยาว ๆ ไม่มีเบื่อ

ส่วนตัวผู้เขียนขออนุญาตให้คะแนนเกมนี้ที่ 9 เต็ม 10 ครับ ผู้เขียนขอย้ำว่า รีวิวนี้ รวมถึงคะแนนนี้เป็นมุมมองของผู้เขียนเท่านั้น แฟนเกมคนอื่น ๆ อาจจะมีมุมมองที่แตกต่างกันก็เป็นได้ครับ

จุดเด่น

– ภาพสีสันสดใส สวยงาม อนิเมชั่นลื่นไหล

– เกมเพลย์หัวใจหลักของซีรีส์ยังมีให้ได้ใช้งาน

– ระบบการต่อสู้ที่เข้าใจง่ายแต่เล่นได้สนุกเพลิดเพลิน

– ระบบฟักไข่ที่ให้เราได้ลุ้นทุกครั้ง

จุดสังเกต

– ไม่มีปุ่มวิ่ง (ขัดใจเล็กน้อย)

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณทาง SICOM ที่เอื้อเฟื้อและสนับสนุนเกมมาให้เราได้รีวิวกันในครั้งนี้ครับ ส่วนครั้งหน้าจะเป็นเกมอะไรนั้นรอติดตามกันได้เลย