เป็นอีกซีรีย์ที่ Netflix ตั้งใจเอามาจับชาวเกมเมอร์โดยการใช้ชื่อ Resident Evil ซึ่งแฟนๆ เกม และคนดูหนังต่างรู้สึกว่าการเอาชื่อนี้มาใช้ทำหนังนั้นตั้งแต่อดีตคือแป้กไปเกินครึ่ง ด้วยความที่ว่าหลายครั้งผู้กำกับไม่สามารถนำความสนุกจากเกมมาแปลเป็นคามบันเทิงแบบหนังได้ดีพอ ไปจนถึงการเอาเพียงเปลือกของ Resident Evil มาใส่ในหนังเท่านั้น เพียงเพราะหวังดึงเกมเมอร์มาดูหนัง แต่ก็กลับออกมาด้วยเสียงวิจารณ์ในแง่ลบเสียส่วนใหญ่
แต่ก็ไม่ต้องแปลกใจว่าขนาดแป้กซ้ำซากขนาดนี้ทำไมชื่อของ Resident Evil ยังคงถูกเอามาวนทำใหม่ในโลกภาพยนตร์ตลอดเวลา ด้วยการเปลี่ยนมุมมองในการเล่าจากคนอื่นที่ไม่ใช่ตัวละครหลักที่เรารู้จักชื่อในเกม ก็แน่นอนเพราะ Resident Evil เป็นเฟรนไชน์เกมที่ทำมากี่ภาคก็ยังขายได้เพราะมีทั้งแฟนใหม่ๆ และแฟนเดนตายยอมจ่ายเงินให้กับความสนุกที่แปลกใหม่มาเสิร์ฟตลอดเวลา แถมยังเป็นสารตั้งต้นไอเดียดีๆ พร้อมต่อยอดสร้างใหม่เสมอนั่นเอง
กลับมาที่ซีรีย Resident Evil เวอร์ชั่น Netflix การดำเนินเรื่องมีการเล่าสลับไปมาระหว่างเหตุการณ์ในอดีต และหลังจากเกิดยุคโลกอะโพคาลิปส์ ที่จำนวนผู้รอดชีวิตบนโลกเหลืออยู่แค่ 300ล้านคนเท่านั้น แต่ซอมบี้ที่ติดเชื้อมีถึง 4,000ล้านตัว
ในส่วนของการเล่าเรื่องช่วงก่อนเกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโทนหนังไปทางหนังวัยรุ่นซึ่งเป็นความทรมานในการนั่งดูช่วงเวลาแบบนี้มากจนต้องใช้พลังใจอย่างมากในการอดทนดูตนจบ EP แรก แต่ก็อาจจะทำให้คนที่เคยผิดหวังจาก Resident Evil ในเวอร์ชั่นหนังที่คนแสดงเลิกคาดหวังไปเลยแล้วก็ได้ เพราะช่วงการตัดสลับมาโลกหลังจากที่เกิดการระบาดแล้วก็รู้สึกขาดตรรกะ และเหตุผลหลายๆ อย่างการดำเนินเรื่อง อันนี้ไม่รวมช่วงแอคชั่นที่สู้กับเหล่าซอมบี้ก็รู้สึกถึงความขาดๆ เกินๆ หลายอย่างอีกด้วย
สุดท้ายนี้ซีรีย์ Resident Evil เวอร์ชั่น Netflix มีทั้งหมด 8 EP ก็เก็บใส่ลิสไว้ดูยามที่เราไม่รู้จะดูอะไร อยากเห็นซอมบี้เยอะๆ ซอมโดนยิงเมื่อไหร่ก็ค่อยมาเปิดดูแล้วกัน
บทสรุป
เก็บใส่ลิสไว้ดูยามที่เราไม่รู้จะดูอะไร อยากเห็นซอมบี้เยอะๆ ซอมโดนยิงเมื่อไหร่ก็ค่อยมาเปิดดูแล้วกัน - 6.5
6.5
คะแนน
แท้ที่จริงแล้วเนื้อเรื่องในซีรีย์นี้แทบไม่เกี่ยวอะไรกับเกมเลย ยกเว้นการเอาชื่อต่างๆ จากเกมมาใช้ไม้ว่าจะเป็น หน่วยงานอัมเบรลลา, ชื่อเมืองนิวแรคคูนซิตี้มาใช้